3 ข้อแตกต่างระหว่าง โบท็อกกับฟิลเลอร์

ระหว่างหมอกระเป๋ากับแพทย์ที่ให้บริการในคลินิกที่มีใบอนุญาตถูกต้อง หลายคนอาจจะเลือกใช้บริการกับหมอกระเป๋าเพราะราคาถูกกว่า โดยที่แทบจะไม่รู้เลยว่าระหว่างการให้บริการของหมอกระเป๋ากับแพทย์ที่มีใบอนุญาตรับรองถูกต้อง แตกต่างกันอย่างไรทำไมราคาถึงแตกต่างกัน ก็คงจะเหมือนกับการที่เรายังคงงงและสับสนระหว่าง โบท็อกกับฟิลเลอร์ ว่ามีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร เราก็เลือกไปโดยที่เราไม่รู้ นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าเราศึกษาหาข้อมูลยังไม่เพียงพอ เพียงแต่ได้ยินคำกล่าวอ้างร่ำลือกัน ว่าฉีดโบท็อกแล้วหน้าตึงหน้าเด้ง ฉีดฟิลเลอร์หน้าก็ตึงเด้งเหมือนกัน ก็คงจะเลือกอะไรก็ได้ ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะข้อมูลต่างๆ มาจากหลากหลายแหล่งที่มา อาจจะทำให้เราเกิดความสับสนแต่ถ้าที่จริงแล้วระหว่างโบท็อกซ์กับฟิลเลอร์แตกต่างกันอย่างไร เพื่อให้สาวๆเลือกประเภทของการเติมเต็ม โดยใช้สารต่างๆเหล่านี้ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับปัญหาที่เราต้องการแก้ไขก่อนที่จะไปพบแพทย์ วันนี้คลินิกขอนแก่นของเรา ก็มีเรื่องราวความแตกต่างระหว่างโบท็อกกับฟิลเลอร์มาฝากกัน 3 เรื่องที่ว่านี้มีอะไรบ้างไปดูเลย

 

ความแตกต่างระหว่างโบท็อกฟิลเลอร์ 

โบท็อก มีชื่อเรียกเต็มๆว่าบูโทลินัมท็อกซิน ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่สร้างขึ้นมา จากการสกัดแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียมบูโทลินัม ในการฉีดโบท็อก มีวัตถุประสงค์ เพื่อลดกล้ามเนื้อให้ดูเล็กลง เมื่อกล้ามเนื้อมีการหดเกร็งจะทำให้บริเวณที่ฉีดโบท็อกเล็กลงตามไปด้วย ดังนั้นการฉีดโบท็อกจึงนิยมฉีดที่บริเวณกราม เพื่อทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลงนั่นเอง นอกจากนี้ยังสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยซึ่งเป็นริ้วรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบนใบหน้า ยกตัวอย่างเช่น ริ้วรอยย่นบริเวณหน้าผาก รอยตีนกา ริ้วรอยที่เกิดจากการขมวดคิ้ว เป็นต้น

ฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็ม มีอยู่ 2 ชนิดคือ สารพาราฟินเป็นฟิลเลอร์แบบถาวร และสารไฮยาลูรอนิคแอซิด เป็นสารเติมเต็มแบบไม่ถาวร ทั้ง 2 ประเภทนี้คือสารที่ช่วยคงความชุ่มชื้นภายในผิวตามร่างกายตามธรรมชาติ หลังจากฉีดฟิลเลอร์เข้าไปจะทำให้ผิวบริเวณที่เป็นร่องลึกดูตื้นขึ้นมา แม้แต่บริเวณที่เราไม่ได้ขยับกล้ามเนื้อ เช่นบริเวณขมับ บริเวณร่องแก้มหรือร่องใต้ตา เป็นต้น

 

ความคงสภาพระหว่างฟิลเลอร์และโบท็อก

โบท็อก : การฉีดโบท็อกในแต่ละจุดจะสามารถ อยู่ได้ยาวนานหรือจะมีอายุสั้นแตกต่างกันออกไป โดยที่ การฉีดเพื่อลดริ้วรอยบริเวณใบหน้าส่วนบน จะมีอายุอยู่ได้ประมาณ 3 ถึง 6 เดือน การฉีดลดกราม แขน และน่องจะมีอายุอยู่ได้นานประมาณ 6 ถึง 12 เดือน การฉีดโบท็อกเพื่อลดกลิ่นตัวและลดเหงื่อจะมีอายุอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน สุดท้ายคือการฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดความมันและลดรูขุมขนจะมีอายุอยู่ได้นานประมาณ 3 เดือน

ฟิลเลอร์  : จะมีอายุแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับประเภทของฟิลเลอร์ ในส่วนของให้ยาลูโรนิคแอซิด จะมีลักษณะเป็นสารคงตัวซึ่งสามารถใช้ฉีดเพื่อเติมเต็มในส่วนที่เราขยับบ่อยๆ เช่นบริเวณร่องแก้มร่องปาก จะอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน แต่ถ้าหากเป็นการฉีดฟิลเลอร์เพื่อทดแทนไขมันที่เสื่อมสภาพใต้ผิว เช่น การฉีดเติมเต็มบริเวณคางหรือจมูก จะอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี ในส่วนของ Skin Booster ซึ่งเป็นฟิลเลอร์อีกรูปแบบหนึ่งจะมีลักษณะเป็นเจลนิ่มๆ ใช้ในการฉีดบริเวณผิวตื้นๆให้ผิวดูฉ่ำน้ำ เติมเต็มส่วนที่เป็นผิวบางและสามารถแก้ปัญหาหลุมสิว จะมีอายุอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน

 

ผลข้างเคียง ระหว่างการฉีดฟิลเลอร์และโบท็อก

โบท็อก : หลังจากการฉีดโบท็อกอาจจะทำให้เกิดปัญหาแทรกซ้อนขึ้นเช่น ปัญหาหนังตาบนตก คิ้วตก รูปปากเบี้ยว มุมปากตก มีรอยจ้ำช้ำเลือดตามตำแหน่งที่ฉีด หรืออาจจะเกิดภูมิต้านทานต่อโบท็อก รวมไปถึงอาการตาแห้ง ถ้าหากฉีดโบท็อกมากเกินไปจะทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง รวมไปถึงอาการข้างเคียงอื่นๆอีกที่สามารถเกิดขึ้นได้ สำหรับผู้รับบริการบางรายอาจจะมีความรู้สึกเจ็บที่บริเวณใบหน้า มีอาการปวดศีรษะวิงเวียนศีรษะ หรือผิวเหอะเป็นรอยแดง เป็นต้น

ฟิลเลอร์ : อาการข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นจากการฉีดฟิลเลอร์ มักจะพบอาการตั้งแต่ไม่รุนแรงไปจนถึงรุนแรงมาก เช่น เกิดผื่นแดงหรือจุดแดง มีรอยแดงเป็นจ้ำเลือดบริเวณที่ฉีดซึ่งเกิดจากรอยเข็ม อาการเหล่านี้เป็นอาการทั่วไปที่จะหายไปได้เอง รวมไปถึงการเกิดรอยนูนในกรณีที่ฉีดมากเกินไป หรือฉีดไม่ตรงตำแหน่งฉีดในตำแหน่งที่ตื้นเกินไป ปัญหาการไหลย้อยของฟิลเลอร์ รวมไปถึงถ้าหากฉีดมากเกินไปจะทำให้เนื้อเยื่ออักเสบและเกิดการติดเชื้อ สำหรับผู้รับบริการบางรายอาจจะเจอปัญหาหนักมากจนถึงขั้นเส้นเลือดตีบและอาจจะส่งผลเสียต่อชีวิตได้ นอกจากนี้คอลลาเจนใต้ผิวที่มีอยู่เดิมจะเกิดการเสื่อมสลายไปได้บ้างหลังการฉีดฟิลเลอร์

 

โดยสรุป ความแตกต่างระหว่างการฉีด โบท็อกกับฟิลเลอร์ ก็คือมันทำหน้าที่แตกต่างกัน ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน ก่อนที่เราจะเลือกใช้บริการเราจึงควรปรึกษาแพทย์ และบอกเล่าถึงปัญหาที่เราต้องการแก้ไข ว่าต้องการทำหน้าเรียวเล็ก V Shape หรือต้องการเติมเต็ม ใบหน้าให้ดูเต่งตึงขึ้น เพื่อที่แพทย์จะได้ประเมิน ว่าเราควรจะใช้สารเติมเต็มตัวใด ซึ่งแน่นอนว่าในส่วนคลินิกขอนแก่นของเรา มีบริการปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการ เพื่อให้ทุกท่านได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากที่สุด ทั้งนี้สามารถโทรเข้ามาเพื่อติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือทำการนัดเวลาเพื่อเข้าพบแพทย์ก่อนที่จะตัดสินใจใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ

 

 

ฉีดโบท็อกซ์ ขอนแก่น , ฉีดฟีลเลอร์ ขอนแก่น , โบท็อกฟิลเลอร์ , คลินิก ขอนแก่น , ผิวขาว ขอนแก่น

ฉีดฟีลเลอร์ อุดร, คลินิก อุดร, ฉีดโบท็อกซ์ อุดร

วันดี คลินิก ขอนแก่น (wandee clinic ) คลินิกความงาม ที่ได้มาตรฐาน
มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ คอยให้คำปรึกษา และแก้ปัญหาที่คุณต้องการ
สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ :
วันดี คลินิก  344/17 ซอยรื่นรมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง ขอนแก่น 40000

โทร : 097-935-5556
Line : @wandeeclinic
เว็บไซต์ :  www.wandeeclinic.com