7 ข้อหลักๆที่ควรรู้ในการดูแลตัวเองหลังพักฟื้น ศัลยกรรมแปลงเพศ (ชาย เป็น หญิง)

ศัลยกรรมแปลงเพศ

แม้ว่าร่างกายคุณเป็นชายแต่ใจเป็นหญิง รู้สึกว่าร่างกายนี้ไม่ใช่สิ่งที่ต้องการอีกต่อไป วันนี้คุณสามารถเปลี่ยนแปลงเพศเป็นอย่างที่ใจต้องการได้ด้วย ศัลยกรรมแปลงเพศ โดยเทคนิคการผ่าตัดที่ทันสมัยและปลอดภัย สามารถสร้างอวัยวะเพศหญิงให้ได้ใกล้เคียงธรรมชาติ รวมถึงการรับความรู้สึกทางเพศที่ไม่ด้อยไปกว่าเดิมอีกด้วย

เช็คลิสต์ก่อนผ่าตัดแปลงเพศ

  • ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป (น้อยกว่า 20 ปี ต้องมีจดหมายรับรองจากผู้ปกครองเพื่อยินยอมการผ่าตัด)
  • ใช้ชีวิตเป็นผู้หญิงติดต่อกันเป็นระยะเวลามากกว่า 1 ปีขึ้นไป โดยที่มีความรู้สึกเป็นหญิงมานานแล้ว รวมถึงเคยได้รับฮอร์โมนเพศหญิงมาก่อนอย่างน้อย 1 ปี
  • ผ่านการประเมินสภาพจิตใจและมีใบรับรองจากจิตแพทย์อย่างน้อย 2 ท่าน
  • สุขภาพร่างกายแข็งแรง

หากคุณมีความตั้งใจแน่วแน่ในการตัดสินใจ ศัลยกรรมแปลงเพศ จากชายเป็นหญิงแล้ว การดูแลตัวเองก่อนผ่าตัดศัลยกรรม และหลังศัลยกรรมสำคัญมาก เพราะมันส่งผลต่อการผ่าตัดและแผลผ่าตัด แถมยังชี้เป็น เป็นหลายๆอย่าง เช่น การอักเสบ การติดเชื้อ เป็นต้น หนำซ้ำยังมีรายละเอียดที่จะต้องปฏิบัติหลากหลายข้อด้วยกัน เพื่อให้การผ่าตัดผ่านไปได้อย่างราบรื่น ซึ่งทางเราก็รวบรวมข้อมูลในการดูแลตัวเองหลังการศัลยกรรมมาฝากทุกคนกันค่ะ เริ่มที่ข้อแรกกันเลย

  1. ห้ามสูบบุหรี่

ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังศัลยกรรม แนะนำให้คุณงดสูบบุหรี่ เพราะในบุหรี่มีสารพิษ โดยเฉพาะสารนิโคติน และคาร์บอนมอนออกไซด์จะส่งผลให้จำนวนออกซิเจนในเลือดไปเลี้ยงผิวหนังลดลง ยิ่งคุณผ่าตัดมาใหม่ๆ คุณยิ่งต้องงดเลย เพราะเป็นช่วงที่ผิวอ่อนแอ ทำให้เกิดภาวการณ์ขาดเลือดเฉพาะที่ และแผลหายช้าได้ ในบางกรณีอาจทำให้ผิวหนังตายได้

  1. การทำกิจกรรมต่างๆ

ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังการทำ ศัลยกรรมแปลงเพศ ไม่สามารถทำกิจกรรมหนักได้ ทำได้เพียงกิจกรรมเบาๆ หรือออกกำลังกายเบา เช่น การเดินออกไปรับประทานอาหาร การพูดคุยกับผู้อื่น ขยับแขนเบาๆ ไม่ควรเคลื่อนไหวรวดเร็ว หรือเคลื่อนไหวรุนแรง เพราะอาจทำให้บาดแผลได้รับการกระทบกระเทียบ ยกตัวอย่างกิจกรรมที่ห้ามทำในช่วง 3 เดือนแรกหลังการผ่าตัดศัลยกรรมได้แก่

  • ห้ามยืดหรือแหวกแคมเพื่อทำความสะอาด หรือถ่ายรูป
  • ห้ามมีเพศสัมพันธ์
  • ห้ามทำกิจกรรมที่ต้องใช้กำลัง หรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดแรงกดบริเวณอวัยวะเพศ ยกตัวอย่างเช่น การขี่ม้า ปีนเขา ขี่จักรยานยนต์ หรือปั่นจักรยาน เป็นต้น
  • ห้ามเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายที่มีการยืดเหยียดบริเวณอวัยวะเพศ เช่น โยคะ พิลาทิศ หรือแอโรบิค เป็นต้น

นอกจากนี้ คนไข้ที่ได้รับการผ่าตัดในช่วง 2 เดือนแรก ควรพักผ่อนให้เต็มที่ในช่วง 2 เดือนแรก และควรหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความเครียด ซึ่งคนไข้อาจจะหากิจกรรมที่มาผ่อนคลาย เช่น การดูหนัง ฟังเพลง เล่นบอร์ดเกม เป็นต้น รวมถึงห้ามยกของหนักที่มากกว่า 2.25 กิโลกรัม เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนถึงบริเวณอวัยวะเพศ ทั้งนี้ การงดทำกิจกรรมหลายอย่างไม่ได้แปลว่าคุณต้องงดทำงาน คุณสามารถทำงานได้ตามปกติ เพียงแต่ให้ทำงานเบาๆ และลดชั่วโมงในการทำงานลง เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่นั่นเอง

  1. การทานยา

หลังจากศัลยกรรมแปลงเพศ คนไข้จะได้รับยาที่จำเป็นตลอดการพักฟื้น ซึ่งคุณจะต้องทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดรวมถึงทานยาปฏิชีวนะให้หมดด้วย รวมถึงได้รับยาที่มีฤทธิ์แรงในการบรรเทาความเจ็บปวดด้วย

เมื่อพูดถึงเรื่องยาๆแล้ว ยาที่คุณควรห้ามทานหลังทำการผ่าตัดศัลยกรรมก็มีเช่นกัน นั่นคือ ห้ามทานยาฮอร์โมนเอสโตรเจน เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะที่หลอดเลือดดำสามารถเกิดการอุดตันบริเวณขาได้ แต่ไม่ได้แปลว่าจะงดทานตลอดนะ คุณจะสามารถรับประทานฮอร์โมน เพื่อคงสภาพความเป็นหญิงได้ แต่ต้องหลังผ่าตัดศัลยกรรมไปแล้ว 1 เดือน หรือ ตามแต่ความเห็นของแพทย์เจ้าของไข้ของคุณเองว่าจะมีโปรแกรมในการทานยาประเภทฮอร์โมนอย่างไร ซึ่งในแต่ละเคสก็จะมีความแตกต่างกันออกไป

  1. ประเภทอาหารที่คุณควงงด และควรทาน

ซึ่งประเภทอาหารที่คุณควรจะงดเลยก็คือ ควรลดอาหารที่กระตุ้นการขับถ่าย เช่น อาหารประเภทกากใยสูง และนม ส่วนการทานอาหารที่คนไข้ควรทานนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 กรณีด้วยกัน ดังนี้

– กรณีแรก คนไข้ที่ศัลยกรรมแปลงเพศด้วยเทคนิคการปลูกถ่ายผิวหนัง ในช่วง 1 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัดศัลยกรรม ผู้ป่วยควรทานอาหารเหลวข้น และอาหารอ่อน เช่น อาหารจำพวกคาร์โบไฮเดตรอย่างซุปครีม หรือซีเรียล จำพวกข้าวโอ๊ต คอร์นเฟลก ขนมปัง มัฟฟิ่น หรือแพนเค้ก อาหารจำพวกโปรตีนอย่างไข่คน ไข่ลวก ปลาไร้ก้างอย่างปลาทูน่า หรือปลาแซลมอน อาหารจำพวกไขมันอย่างพวกนมช็อกโกแลต ไอศกรีม โยเกิร์ต และอาหารจำพวกแร่ธาตุและวิตามินอย่างผลไม้กระป๋องแบบไร้เมล็ด หรือไร้เปลือก เช่น กล้วย แคนตาลูป เป็นต้น หลังจากผ่านสัปดาห์แรกไปแล้ว คนไข้ถึงจะสามารถรับประทานอาหารปกติได้

– กรณีที่สอง คนไข้ที่ศัลยกรรมแปลงเพศด้วยเทคนิคการใช้ลำไส้ใหญ่ ในช่วง 1 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด ผู้ป่วยสามารถทานอาหารเหลวใส และอาหารเหลวข้นได้ หลังจากนั้นเมื่อผู้ป่วยสามารถขับถ่ายได้เป็นปกติ ก็ให้ทานอาหารอ่อน และสามารถทานอาหารปกติได้หลังจากผ่านไปแล้ว 2 สัปดาห์

  1. ทำความสะอาดช่องคลอด

การทำความสะอาดช่องคลอด ควรทำความสะอาดด้วยการใช้น้ำยาป้องกัน และฆ่าเชื้อโรค หรือใช้น้ำเกลือล้างแผล วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น และวันละ 1 ครั้ง หลังจากผ่านไปแล้ว 1 เดือน (จนถึงประมาณ 6 เดือน) ก็เปลี่ยนมาทาขี้ผึ้งบริเวณแผล รูเปิดท่อปัสสาวะ และคลิทอริสทุกครั้งหลังอาบน้ำ

  1. การนอนหลักพักผ่อน

หลังผ่าตัดในระยะแรก ผู้ป่วยควรนอนในท่าที่ขาทั้งสองข้างแยกออกจากกัน โดยอาจใช้ผ้าห่มหรือหมอนกั้นกลางไว้ขณะที่หลับ และสามารถลุกเดินได้หลังผ่าตัดไปแล้ว 5 วัน

  1. การป้องกันไม่ให้ช่องคลอดตีบตัน

การป้องกันไม่ให้ช่องคลอดตีบตันด้วยการใส่วัสดุขยายช่องคลอดเทียม (แยงโม) โดยเริ่มจากขนาดเล็กๆ ก่อนแล้วค่อยๆ เพิ่มความกว้างและความยาวตามขึ้นตามลำดับ ตามคำแนะนำของแพทย์ โดยคุณจะสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้หลังจากผ่าตัดไปแล้วประมาณ 2 เดือน

 

 

ฉีดโบท็อกซ์ ขอนแก่น , ฉีดฟีลเลอร์ ขอนแก่น , ฉีดฟิลเลอร์คาง , คลินิก ขอนแก่น , ผิวขาว ขอนแก่น

ฉีดโบท็อกซ์ อุดร  ,  ฉีดฟีลเลอร์ อุดร   , ฉีดฟิลเลอร์คาง  ,  คลินิก อุดร  ,  ผิวขาว อุดร

วันดี คลินิก ขอนแก่น (wandee clinic ) คลินิกความงาม ที่ได้มาตรฐาน
มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ คอยให้คำปรึกษา และแก้ปัญหาที่คุณต้องการ
สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ :
วันดี คลินิก  344/17 ซอยรื่นรมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง ขอนแก่น 40000

โทร : 097-935-5556
Line : @wandeeclinic
เว็บไซต์ :  www.wandeeclinic.com

หน้าแรก
รีวิว คลินิก
โปรโมชั่น
ติดต่อเรา