ฉีด โบท็อกซ์ (Botox) โบท็อก ทางออกของผู้หญิงยุคใหม่ ที่ต้องการแก้ปัญหาผิว ซึ่งช่วยให้เห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนได้ตั้งแต่ครั้งแรก เข้าตำราสวยเด้งเร่งด่วน เท่านั้นยังไม่พอ ยังไม่มีอันตรายต่อผิวอีกด้วย และสำหรับใครที่กำลังลังเลสงสัย ว่าการฉีดโบท็อกซ์เป็นอย่างไร ฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดี ฉีดจุดไหนได้บ้าง แล้วควรเลือกโบท็อกซ์แบบไหน ให้ได้ของแท้ และราคาประหยัดวันนี้เรามีคำตอบ
โบท็อกซ์ (Botox) คืออะไร? ทำงานอย่างไร?
โบท็อกซ์ Botox คือ สาร Botulinum Toxin A ได้จากการสกัดจากแบคทีเรียชนิดหนึ่ง คือ คลอสตริเดียม
โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) โดยการฉีด โบท็อกซ์ จะเป็นการนำสารดังกล่าวฉีกเท่าที่บริเวณใบหน้า
เพื่อลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับ ให้ผลลัพธ์อย่างชัดเจนในระยะเวลาที่รวดเร็ว
การทำงาน หรือการออกฤทธิ์ของโบท็อก หลังจากที่ฉีดเข้าไปแล้ว สารตัวนี้จะเข้าไปทำให้เซลล์ประสาทบริเวณกล้ามเนื้อที่ฉีด หยุดหลังสารสื่อประสาทออกมาที่บริเวณนั้น ทำให้กล้ามเนื้อหดตัว เราจะรู้สึกชา และตึงจนไม่สามารถขยับได้ คล้ายกับการฉีดยาชา และเมื่อฉีดไปสักครู่กล้ามเนื้อจะค่อยๆคลายตัวออกมา ส่งผลให้ร่องลึกบริเวณใบหน้า หรือบริเวณที่ฉีดค่อยๆจางลง ซึ่งระยะเวลาที่เห็นผลจะแตกต่างกันตามปริมาณและความลึกของ
ริ้วรอย หากเป็นริ้วรอยร่องตื้นจะเริ่มจางภายใน 2-3 วันหลังฉีด และหากเป็นริ้วรอยร่องลึก จะเริ่มจางภายใน
7-14 วันหลังฉีด และเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 6-12 เดือน สารสกัดดังกล่าว จะค่อยๆสลายไปเองตามธรรมชาติ
โบท็อกซ์ (Botox) ช่วยแก้ปัญหาจุดใดได้บ้าง
การฉีด โบท็อกซ์ ไม่เพียงช่วยแก้ปัญหาเรื่องริ้วรอยร่องลึกร่องตื้นเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆเกี่ยวกับเรื่องความสวยความงามและผิวพรรณอีกมากมาย โดยไม่ต้องผ่าตัด ทำให้การฉีดโบท็อกเป็นที่นิยมมากขึ้นนั่นเอง โดยจุดที่สามารถฉีดโบท็อกได้ มีดังนี้
- ลดริ้วรอยระหว่างคิ้ว
- ฉีดรัดแกนจมูกให้คมขึ้น
- ลดปีกจมูกช่วยแก้ปัญหาปีกจมูกบาน
- ฉีดบริเวณโหนกแก้มเพื่อช่วยลดโหนกแก้ม
- ฉีดบริเวณคอ เหนียง ช่วยลดปัญหาริ้วรอยที่คอและช่วยลิฟท์หน้า ให้ยกกระชับได้รูปมากขึ้น
- ฉีดที่บริเวณกล้ามเนื้อแขนและน่อง ช่วยลดปัญหากล้ามเนื้อแขนกล้ามเนื้อน่องใหญ่
- ฉีดใต้วงแขนฝ่ามือและฝ่าเท้าเพื่อลดเหงื่อ
- ฉีดเพื่อกระชับรูขุมขน
- ฉีดบริเวณกรามเพื่อปรับหน้าเรียววีเชฟ
- ฉีดบริเวณหางตา ขมับ เพื่อลดริ้วรอยตีนกา
- ฉีดบริเวณหน้าผาก ลดริ้วรอยร่องลึกบริเวณหน้าผาก
- ฉีดรักษาไมเกรน
รู้ก่อนเลือกโบท็อกซ์ (Botox) แต่ละยี่ห้อ
ในปัจจุบันมีโบท็อกซ์ ออกมาให้เลือกใช้มากมายหลากหลายยี่ห้อตามท้องตลาด ซึ่งประสิทธิภาพและราคาก็แตกต่างกันออกไป ประกอบกับความนิยมในการฉีด โบท็อกซ์ ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วแต่ละยี่ห้อเป็นอย่างไรไปดูกันเลย
- Botox อเมริกา
โบท็อกซ์ สัญชาติอเมริกา มีชื่อว่า Allergan ผ่านงานวิจัยและพัฒนามาอย่างต่อเนื่องมีผลการวิจัยรับรองมากกว่า 3,500 งานวิจัย และเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ แล้ว Botox อเมริกาเป็นยี่ห้อที่เห็นผลในการใช้งานได้ดีมากที่สุดและ
มีโอกาสดื้อโบท็อกน้อยที่สุด นั่นก็เป็นเพราะว่า โบท็อกซ์อเมริกา มีตัวยาที่มีการกระจายตัวแคบที่สุด จึงส่งผลให้ได้รับผลการรักษาที่แม่นยำและตรงจุด พูดง่ายๆว่าฉีดจุดไหนแก้ไขจุดนั้นไม่กระจายไปที่อื่นนั่นเอง แต่หากต้องการการใช้โบท็อกซ์อเมริกาเพื่อให้อยู่ได้นานและให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ก็จำเป็นที่จะต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง เพราะต้องคาดคะเนการออกฤทธิ์ให้ได้อย่างแม่นยำด้วย
เช่นกัน
- Botox อังกฤษ
โบท็อกซ์ สัญชาติอังกฤษ มีชื่อว่า Dysport เป็นโบท็อกที่เหมาะกับการฉีดลิฟท์หน้า มากที่สุด เพื่อช่วยยกกระชับผิวสำหรับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยอย่างเป็นธรรมชาติ เนื่องจากตัวยาจะกระจายอย่างทั่วถึงไม่กระจุกตัวเป็นจุดแคบๆ ซึ่งหลังจากการฉีดผิวจะตึงขึ้นประมาณ 50% และนอกจากนี้แล้วยังสามารถใช้ฉีดเพื่อลดเหงื่อและลดกลิ่นตัว ต้นแขนและน่อง และเช่นเดียวกัน หากต้องการให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและอยู่ยาวนานจำเป็นที่จะต้องใช้แพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน เนื่องจากตัวยามีการ กระจายตัวเป็นวงกว้าง จึงจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูง
- Botox เกาหลี
โบท็อกซ์ สัญชาติเกาหลี มี 2 ยี่ห้อด้วยกันคือ Nabota และ Aestox ซึ่งทั้ง 2 ยี่ห้อนี้เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในบ้านเราเพราะโดยส่วนใหญ่แล้วโบท็อกจากเกาหลีจะเน้นการพัฒนาให้ออกฤทธิ์ไวเทียบเท่ากับโบท็อกของอเมริกาแต่มีราคาที่ถูกกว่านั่นเอง
- Nabota เป็นโบท็อกซ์ยี่ห้อเดียวของเกาหลีที่ผ่านงานวิจัยรับรองจาก อย. อเมริกา จุดเด่นของยี่ห้อนี้คือออกฤทธิ์ไว และเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วหลังฉีด
- Aestox โบท็อกซ์เกาหลีที่ผ่าน อย. ไทย ตัวยาให้ความบริสุทธิ์สูง เห็นผลไว มีความอ่อนโยนให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติฉีดแล้วหน้าไม่แข็ง นิยมใช้ฉีดลดริ้วรอยหาง รอยย่นบริเวณหน้า ระหว่างคิ้ว และปรับรูปหน้าให้เร็วขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดโอกาสดื้อโบท็อกอีกด้วย
- Botox เยอรมัน
โบท็อกซ์ สัญชาติเยอรมัน มีชื่อว่า Xeomin เป็นโบท็อกที่พัฒนาโดยเอาข้อดีของโบท็อกซ์ซามีนอเมริกา กับโบท็อกซ์อังกฤษ มัดรวมเข้าเป็นเรื่องเดียวกัน ดังนั้นโบท็อกซ์เยอรมันจึงมีคุณสมบัติต่างๆที่อยู่กึ่งกลางระหว่างทั้ง 2 ยี่ห้อ คือ มีความบริสุทธิ์สูงและตัวยาจะไม่กระจุกตัวจนแคบเกินไป ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นธรรมชาติ และนอกจากนี้ยังมีงานวิจัย ที่ออกมาแสดงด้วยว่าโบท็อกซ์เยอรมันสามารถออกฤทธิ์ได้ในเคสที่ดื้อโบท็อกซ์อีกด้วย (เคสนั้นต้องหยุดฉีดโบท็อกซ์มาแล้วอย่างน้อย 2-3 ปี จึงใช้ได้ผล)
ฉีด โบท็อกซ์ (Botox) ยังไงให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
การฉีด โบท็อกซ์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่เจ็บตัวฟรี ไม่เสียเงินเปล่าประโยชน์ และให้ผลลัพธ์ที่สวยงามนั้นอยู่กับเราไปได้อย่างยาวนาน ต้องเริ่มต้นจากการเลือกโบท็อกซ์ที่เป็นโบท็อกซ์แท้ หลีกเลี่ยงการใช้ของปลอมและหมอกระเป๋า รวมถึงการเลือกฉีด โบท็อกซ์กับคลินิกความงาม ที่ได้มาตรฐาน มีเครื่องมือที่สะอาดปลอดภัย และมีชนิดของโบท็อกซ์ให้เลือกอย่างหลากหลาย รวมถึงทีมแพทย์ต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านถือเป็นเรื่องสำคัญมากที่สุด อีกทั้งการดูแลตัวเองหลังจากการฉีดโบท็อกซ์ ก็ส่งผลทำให้ผลลัพธ์นั้นอยู่ยาวนานด้วยเช่นกัน คลินิกของเรา คือคลินิกศัลยกรรมความงาม ที่มีคุณภาพมาตรฐานและได้รับการรับรองต่างๆมากมาย เป็นที่เชื่อถือ และสามารถไว้วางใจในการรับบริการได้อย่างแน่นอน ซึ่งทุกท่านสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้โดยตรงที่คลินิก ของเรา
สำหรับใครที่กำลังสนใจอยากฉีดฟิลเลอร์ปาก เสริมจมูก Botax ไม่ว่าจะเป็นสายฝอ หรือสายเกา
วันดี คลินิก พร้อมบริการด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ ด้วยผลิตภัณฑ์แท้คุณภาพสูง ยี่ห้อชั้นนำระดับโลก รับประกันความพึงพอใจ ด้วยผลรีวิวอันดับ 1 คลินิกที่หมอฉีดฟิลเลอร์ปากสวยที่สุด แอดไลน์ Line @wandeeclinic เข้ามาเพื่อปรึกษา และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ตลอด 24 ชั่วโมง เรายินดีบริการให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ พร้อมรับโปรโมชันสุดพิเศษจากวันดีคลินิกได้เลยค่ะ
วันดี คลินิก ขอนแก่น (wandee clinic ) คลินิกความงามที่ได้มาตรฐาน ครบวงจร พร้อมมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีความยินดีที่จะให้บริการ และคอยให้คำปรึกษาแก่คุณลูกค้าทุกท่าน และแก้ปัญหาที่คุณต้องการไม่ว่าจะเป็น ฉีดโบท็อก,ฉีดปาก , เสริมจมูก ,โปรโมชั่นคลินิก,คลินิกขอนแก่น คลินิกศัลยกรรมที่ไหนดี คลินิกเสริมความงาม, คลินิกความงาม,อย่างเป็นกันเองค่ะ
สามารถสอบถามเพิ่มเติมที่:
เว็บไซต์ : www.wandeeclinic.com