MBTOX โบท็อกซ์น้องใหม่จากประเทศเกาหลี ที่คนส่วนใหญ่นิยมเรียกว่า โบเอ็ม ที่เป็นโบท็อกซ์สายพันธุ์เกาหลี & อเมริกา ที่มีความบริสุทธิ์สูง และพึ่งผ่านการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยา (อย.) ประเทศเกาหลี ประเทศไทย และอีก 10 ประเทศทั่วโลก บทความนี้ Wandee Clinic (วันดี คลินิก) จะพาทุกท่านไปทำความเข้าใจกับ MBTOX ปลอดภัยแค่ไหน แพ้โบทำได้มั้ย? ฉบับเข้าใจง่าย
สารบัญ
- MBTOX คืออะไร
- MBTOX เด่นเรื่องอะไร
- โบท็อกซ์ทำงานอย่างไร?
- โบท็อกซ์กับฟิลเลอร์ต่างกันอย่างไร?
- โบท็อกซ์เหมาะกับใครบ้าง?
- โบท็อกซ์เห็นผลภายในกี่วัน?
- ผลลัพธ์จากโบท็อกซ์ Mbtox อยู่ได้กี่เดือน?
- ฉีดโบท็อกซ์แล้วหน้าจะแข็งหรือเปล่า?
- MBTOX คนแพ้โบทำได้มั้ย
- ก่อนฉีดโบท็อกซ์ต้องเตรียมตัวอย่างไร?
- อายุเท่าไหร่ถึงจะฉีดโบท็อกซ์ได้?
- หลังฉีดโบท็อกซ์ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร?
- นอนตะแคงหลังฉีดโบท็อกซ์ได้หรือไม่?
- ถ้าฉีดโบท็อกซ์ปลอมจะมีอันตรายอย่างไร?
- ควรฉีดโบท็อกซ์บ่อยแค่ไหน?
- การเลือกแพทย์และคลินิกสำคัญอย่างไร?
- ฉีดโบท็อกซ์ที่ Wandee Clinic ดีอย่างไร
- ฉีดโบท็อกซ์ต้องที่ Wandee Clinic
MBTOX คืออะไร
MBTOX Botox หรือที่นิยมเรียกว่า โบเอ็ม เป็น CLOSTRIDIUM BOTULINUM (Toxin Type A) ซึ่งเป็นสายพันธุ์เดียวกับ โบท็อกซ์ Allergan ที่ผลิตโดยบริษัท HUONS BIOPHARMA CO.,LTD. ประเทศเกาหลี ที่มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.8% ช่วยในเรื่องลดริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า ริ้วรอยช่วงวัย ช่วยลดความเสี่ยงในการแพ้โบ และลดอาการดื้อโบท็อกซ์ ที่เป็นสาเหตุของการไม่เห็นผลหลังฉีดโบท็อกซ์
ขอบคุณรูปภาพจากเพจ : MBBO – โบเอ็ม
MBTOX เด่นเรื่องอะไร
โบเอ็ม โบท็อกซ์ มีจุดเด่นในเรื่องการใช้สายพันธุ์ Toxin A เป็นสายพันธุ์ที่นิยมใช้ในโบท็อกซ์ฝั่งยุโรป มีค่าความสุทธิ์สูงถึง 99.8% ซึ่งเป็นค่าที่สูงที่สูดของโบท็อกซ์ของประเทศเกาหลีในขณะนี้ และมีค่าความบริสุทธิ์สูงเทียบเท่าโบท็อกซ์ยุโรป แต่มีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า นอกจากนั้นยังทำให้เกิดการแพ้โบท็อกซ์น้อย และช่วยลดโอกาสการดื้อยา และมีความปลอดภัยสูงไม่มีผลข้างเคียงหลังฉีด
ขอบคุณรูปภาพจากเพจ : MBBO – โบเอ็ม
โบท็อกซ์ทำงานอย่างไร?
โบท็อกซ์จะทำงานโดยเข้าไปยับยั้งการทำงานของสารสื่อประสาท ที่ทำหน้าที่ส่งสัญญาณระหว่างเส้นประสาทกับกล้ามเนื้อ ซึ่งเมื่อฉีดโบท็อกซ์เข้าไปยังบริเวณที่มีกล้ามเนื้อ จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นๆ เกิดการคลายตัวชั่วคราว เพราะไม่สามารถส่งสัญญาณประสาทไปยังบริเวณกล้ามเนื้อให้หดตัวได้ตามปกติ ส่งผลให้ริ้วรอยบริเวณนั้นดูลดลง ทำให้ใบหน้าเรียบเนียนขึ้น ทั้งยังช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อกราม ทำให้กรามเล็กลงและใบหน้าดูเรียวขึ้น
อ่านเพิ่มเติม
โปรแกรม Botox คืออะไร? ฉีดตรงไหนได้บ้าง กี่วันเห็นผล รวมเรื่อง ฉีดโบท็อกซ์ ถามมา-ตอบไป คำถามยอดฮิต ฉบับเข้าใจง่าย3 เรื่องเด็ด การฉีดโบท็อกซ์แบบต่าง ๆ ฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดีอย่าพึ่งโบ!! ถ้ายังไม่รู้ว่าแตกต่างยังไง
รีวิวฉีดโบท็อกซ์จากคุณปริม
@wandeeclinic ริ้วรอยหายเกลี้ยง บอกลาหน้าแก่ไปเลยค่า 💗🥰 #วันดีคลินิก #wandeeclinic #รีวิวบิวตี้ #คลินิกความงาม #คลินิกเสริมความงาม #คลินิกความงามพัทยา #พัทยา #โบริ้วรอย #โบท็อกซ์ #โบท็อกซ์ริ้วรอย #โบท็อกซ์พัทยา
โบท็อกซ์กับฟิลเลอร์ต่างกันอย่างไร?
โบท็อกซ์ กับ ฟิลเลอร์ เป็นหัตถการที่สามารถเห็นผลได้คล้ายกัน แต่ก็มีส่วนที่ต่างกันในเรื่องของ วิธีการทำงานของตัวยา และ วัตถุประสงค์ในการใช้งาน ดังนี้
วิธีการทำงาน โบท็อกซ์ สกัดจากโปรตีนของ Botulinum Toxin Type A ทำงานโดย ยับยั้งสัญญาณประสาท ที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวชั่วคราว ส่วนฟิลเลอร์ ใช้สาร ไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารอุ้มน้ำที่มีอยู่ในผิวตามธรรมชาติ เติมเต็มเข้าไปในชั้นผิวหรือใต้ผิวหนัง
วัตถุประสงค์ในการใช้งาน เพราะโบท็อกซ์จะทำหน้าที่ช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อและลดริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า เช่น หน้าผาก ระหว่างคิ้ว และรอยตีนกา ช่วยทำให้หน้าเรียวขึ้นและลดขนาดกล้ามเนื้อบริเวณต่าง ๆ ส่วนฟิลเลอร์จะช่วยในเรื่องการเติมเต็มและเสริมจุดบกพร่องในบริเวณที่มีความเสื่อมของคอลลาเจนและเนื้อเยื่อให้ดูเต็มและอวบอิ่มขึ้น เช่น ร่องลึกร่องแก้ม เติมแก้มตอบ ปาก คาง เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติม
2 นวัตกรรมความงาม คลินิกศัลยกรรม การฉีดโบท็อกซ์ vs การฉีดฟิลเลอร์
2 ข้อแตกต่างระหว่าง การฉีดเมโสแฟต และการฉีดโบท็อกซ์ คลินิกศัลยกรรม
โบท็อกซ์เหมาะกับใครบ้าง?
- ผู้ที่มีริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า เช่น รอยย่นบริเวณหน้าผาก รอยขมวดคิ้ว รอยตีนกา
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น ผู้ที่มีกรามใหญ่จากกล้ามเนื้อกราม ทำให้ใบหน้าดูเรียวและสมส่วนขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด
- ผู้ที่ต้องการลดขนาดกล้ามเนื้อบางจุด ลดกล้ามเนื้อน่อง ทำให้น่องดูเรียวเล็กลง ลดเหงื่อบริเวณรักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า สำหรับผู้ที่มีปัญหาเหงื่อออกมากผิดปกติ
- ผู้ที่ต้องการดูอ่อนเยาว์แบบไม่ต้องผ่าตัด โบท็อกซ์ช่วยทำให้หน้าดูเด็กลง โดยลดริ้วรอยและทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
- ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาบางอย่างที่เกี่ยวกับกล้ามเนื้อ เช่น ผู้ที่มีภาวะกล้ามเนื้อกระตุก หรือมีปัญหากล้ามเนื้อเกร็ง
อ่านเพิ่มเติม
9 เหตุผล ฉีดโบท็อกซ์ ฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดี ดีหรือร้าย เหมาะกับใคร ทำไมต้องฉีด
โบท็อกซ์เห็นผลภายในกี่วัน?
การฉีดโบท็อกซ์ ผลลัพธ์จะค่อย ๆ แสดงให้เห็นตามช่วงเวลา ดังนี้
- 3-4 วันหลังฉีด จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เช่น กล้ามเนื้อเริ่มคลายตัว ริ้วรอยบางส่วนดูจางลง
- 7-14 วันหลังฉีด ผลลัพธ์จะชัดเจนมากขึ้น ริ้วรอยจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด หน้าดูเรียบเนียนขึ้น
- 2 สัปดาห์ขึ้นไป ผลลัพธ์จะเห็นชัดเจนที่สุดในช่วงนี้ ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ และผิวดูเรียบเนียนขึ้น
@wandeeclinic อยากได้กล้าม..แต่ได้กราม ปัญหา! ที่คนเล่นกล้ามต้องเจอ #วันดีคลินิก#wandeeclinic #โบลดกราม #โบลดกรามหน้าเรียว #หน้าเรียว#กรามใหญ่ #คลินิกเสริมความงาม
ผลลัพธ์จากโบท็อกซ์ Mbtox อยู่ได้กี่เดือน
โดยทั่วไป ผลลัพธ์ของโบท็อกซ์ จะอยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น
- ตำแหน่งที่ฉีด เพราะหากฉีดที่บริเวณที่กล้ามเนื้อทำงานบ่อย เช่นบริเวณหน้าผาก หางตา ระหว่างคิ้ว ผลลัพธ์อาจอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน แต่หากฉีดบริเวณที่กล้ามเนื้อไม่ค่อยขยับ เช่นบริเวณกราม น่อง ผลลัพธ์อาจอยู่ได้นานถึง 4-6 เดือน
- ปริมาณที่ฉีด การฉีดในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น หากฉีดในปริมาณน้อยเกินไป ผลลัพธ์อาจอยู่ได้ไม่นานตามปริมาณยาที่ฉีด
- การดูแลหลังฉีด ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพสูงสุด
- การตอบสนองของร่างกายแต่ละคน บางคนอาจสลายโบท็อกซ์เร็วกว่าปกติ เนื่องจากระบบเผาผลาญของร่างกาย ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้สั้นลง
@wandeeclinic อย่าพึ่ง !!! มาทำโบที่นี่ ถ้ายังไม่ได้ดูรีวิวสุดปังนี้ 💖✨ #วันดีคลินิก #Wandeeclinic #รีวิวบิวตี้ #คลินิกความงาม #คลินิกเสริมความงาม #คลินิกอุดร #คลินิกเสริมความอุดร #อุดรธานี🤍 #โบท็อกซ์ #โบแท้ #โบท็อกซ์แท้ #โบอุดร #รีวิวโบท็อกซ์ #โบลดกราม #โบริ้วรอย
ฉีดโบท็อกซ์แล้วหน้าจะแข็งหรือเปล่า?
โดยปกติ การฉีดโบท็อกซ์ จะไม่ทำให้หน้าดูแข็งหรือไร้อารมณ์ ถ้าฉีดอย่างถูกวิธีและเหมาะสม โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะโบท็อกซ์มีจุดประสงค์หลักเพื่อคลายกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดริ้วรอย แต่ไม่ใช่การหยุดการทำงานของใบหน้าทั้งหมด
สาเหตุที่ทำให้หน้าแข็งหลังฉีดโบท็อกซ์
- ฉีดในปริมาณที่มากเกินไป การฉีดโบท็อกซ์หากฉีดในปริมาณที่มากเกินความจำเป็น อาจทำให้กล้ามเนื้อไม่สามารถขยับได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- ฉีดในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง การฉีดผิดจุดหรือไม่ตรงกับกล้ามเนื้อบริเวณที่จะฉีด อาจส่งผลต่อการแสดงสีหน้าได้
- แพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญ หากแพทย์ไม่มีประสบการณ์ อาจประเมินปริมาณและตำแหน่งในการฉีดไม่เหมาะสม
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนฉีดโบท็อกซ์ต้องเตรียมตัวอย่างไร?
- ศึกษาข้อมูลคลินิก แพทย์ และการตรวจสอบตัวยาให้แน่ใจก่อนเข้ารักษาทุกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงหลังการรักษา
- งดการใช้ยาที่ทำให้เลือดออกง่าย เช่น ยาแอสไพริน ยากลุ่มต้ามการอักเสบ (NSAIDs) วิตามินอี, น้ำมันปลา, โสม, กระเทียม สมุนไพรหรือยาบางชนิดที่ทำให้เลือดออกง่าย 7 วันก่อนรักษา
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 24 ชั่วโมง ก่อนฉีดโบท็อกซ์ เพราะการดื่มแอลกอฮอล์อาจทำให้เลือดออกง่ายและช้ำหลังฉีดได้
- งดการแต่งหน้าในวันฉีด ควรล้างหน้าให้สะอาดและไม่แต่งหน้า เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกและการติดเชื้อ
- พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายพร้อมและลดความกังวล
- งดออกกำลังกายหนักก่อนฉีด หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ ก่อนฉีดประมาณ 24 ชั่วโมง เพราะอาจทำให้เลือดสูบฉีดมากขึ้น และเกิดรอยเขียวช้ำได้ง่าย
- แจ้งประวัติสุขภาพกับแพทย์ หากมีโรคประจำตัวหรือมีประวัติการทานยา และการแพ้ยา ควรแจ้ให้ทราบแพทย์ก่อนทำการรักษา
อ่านเพิ่มเติม
@wandeeclinic เติมโบหนึ่งที หน้าก็เรียวขึ้นทันตา! 💉 𝗕𝗼𝘁𝗼𝘅 ลดกราม ตัวช่วยปรับรูปหน้าแบบเห็นผลไว ที่ 𝗪𝗮𝗻𝗱𝗲𝗲 𝗖𝗹𝗶𝗻𝗶𝗰 หน้ากระชับ กรอบหน้าชัดขึ้น✨ เสน่ห์เพิ่มเป็น 𝟭𝟬 เท่า!!💖💖 #WandeeClinic #วันดีคลินิก #รีวิวคลีนิก #รีวิววันดีคลีนิก #รีวิวเสริมความงาม #โปรแกรมโบท็อก #Botox #โปรแกรมโบท็อกซ์ #โปรแกรมโบท็อกซ์ลิฟกรอบ #โปรแกรมโบท็อกซ์วันดีคลินิก #ฉีดโบท็อก
อายุเท่าไหร่ถึงจะฉีดโบท็อกซ์ได้?
โดยทั่วไป การฉีดโบท็อกซ์ ไม่มีการกำหนดอายุขั้นต่ำที่ตายตัว แต่แพทย์แนะนำว่า ควรมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป และขึ้นอยู่กับปัญหาของผิวหรือความต้องการของแต่ละบุคคล สำหรับผู้ที่อายุน้อยกว่า 18 ปี ส่วนใหญ่ยังไม่จำเป็นต้องฉีดโบท็อกซ์ เพราะปัญหาริ้วรอยยังไม่เด่นชัด อย่างไรก็ตาม ควร ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก่อนทำ เพื่อประเมินความเหมาะสมและความจำเป็นของการฉีดโบท็อกซ์
หลังฉีดโบท็อกซ์ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร?
- ห้ามนอนราบหรือนอนตะแคงภายใน 4 ชั่วโมงหลังฉีด เพื่อป้องกันไม่ให้โบท็อกซ์กระจายไปยังตำแหน่งอื่นที่ไม่ต้องการ
- ห้ามนวด, กด หรือสัมผัสแรง ๆ บริเวณที่ฉีด โดยเฉพาะในช่วง 24 ชั่วโมงแรก เพราะอาจทำให้ตัวยาเคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง
- งดออกกำลังกายหนัก หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ และกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก ภายใน 24 ชั่วโมงแรก
- งดดื่มแอลกอฮอล์และของร้อนจัด ควรงดแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มร้อนจัดอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อลดการเกิดรอยช้ำและบวม
- หลีกเลี่ยงการทำหัตถการหรือทรีตเมนต์อื่น ๆ บนใบหน้า เช่น เลเซอร์, นวดหน้า, ซาวน่า, การทำทรีตเมนต์ต่าง ๆ ควรงดอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงความร้อน งดเข้าซาวน่า, อบไอน้ำ, ตากแดดจัด ๆ เพราะความร้อนอาจทำให้ประสิทธิภาพของโบท็อกซ์ลดลง
- ขยับกล้ามเนื้อในจุดที่ฉีดเบา ๆ ขยับกล้ามเนื้อ เช่น ยิ้ม, ขมวดคิ้ว, ยกคิ้วเบา ๆ เพื่อช่วยให้โบท็อกซ์ออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น (แต่ไม่ควรสัมผัสแรง ๆ)
- ดื่มน้ำมาก ๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็ว และทำให้โบท็อกซ์คงประสิทธิภาพได้นานขึ้น
@wandeeclinic BO ลดกราม…เปลี่ยนสาวหน้ากลม เป็นสาวหน้าแกรมหน้าวี #วันดีคลินิก#WandeeClinic#โบลดกราม#โบลดกรามหน้าเรียว #หน้าเรียว #กรามใหญ่ #หน้าเล็กเรียวต้องมา #โบท็อก #โบท็อกซ์ #โบท็อกซ์ลดกราม #รีวิวบิวตี้ #คลินิกความงาม#คลินิกเสริมความงาม #คลินิก #สาวหน้าแกรมหน้าวี
นอนตะแคงหลังฉีดโบท็อกซ์ได้หรือไม่?
หลังฉีดทันทีไม่แนะนำให้นอนตะแคงหรือนอนราบภายใน 4 ชั่วโมงหลังฉีด เพราะการนอนราบหรือนอนตะแคงอาจทำให้ตัวยา กระจายผิดตำแหน่ง ไปยังบริเวณอื่นที่ไม่ต้องการ ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เช่น หนังตาตกหรือหน้าเบี้ยวได้ และหลังฉีดครบ 4 ชั่วโมงหลังฉีดแล้ว สามารถนอนตะแคงหรือนอนท่าปกติได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการกดทับบริเวณที่ฉีดแรง ๆ
ถ้าฉีดโบท็อกซ์ปลอมจะมีอันตรายอย่างไร?
หากฉีดโบท็อกซ์ปลอม อาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้ เนื่องจากโบท็อกซ์ปลอมมักไม่ได้มาตรฐานและอาจปนเปื้อนสารอันตราย ส่งผลเสียต่อร่างกาย ดังนี้
- เกิดอาการแพ้รุนแรง เพราะโบท็อกซ์ปลอมอาจมีสารปนเปื้อนหรือสารพิษที่ไม่ได้รับการควบคุมในกระบวนการผลิตอย่างถูกต้องและได้มาตรฐาน จึงอาจส่งผลให้เกิดอาการแพ้ เช่น บวมแดง ผื่นคันได้
- ติดเชื้อบริเวณที่ฉีด เนื่องจากไม่ได้ผลิตในห้องปลอดเชื้อที่ได้มาตรฐาน อาจทำให้เกิดการติดเชื้อ ส่งผลให้บริเวณที่ฉีดเกิดอาการบวมแดงผิดปกติ หรือมีหนอง เกิดการอักเสบเรื้อรังได้
- หน้าเบี้ยว กล้ามเนื้อผิดปกติ โบท็อกซ์ปลอมมีคุณภาพต่ำหรือไม่บริสุทธิ์ ส่งผลให้ตัวยากระจายไม่สม่ำเสมอ อาจทำให้กล้ามเนื้อทำงานผิดปกติ หนังตาตก หน้าเบี้ยวไม่สมดุล หรือรอยย่นหายไม่เท่ากัน
- โบท็อกซ์ไม่ออกฤทธิ์หรือออกฤทธิ์นานผิดปกติ เพราะไม่มีสาร Botulinum Toxin ที่ออกฤทธิ์จริง หรือในทางกลับกัน ตัวยาออกฤทธิ์นานเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อไม่สามารถฟื้นตัวได้ตามธรรมชาติ
- เป็นพิษต่อระบบประสาทและร่างกาย สารปนเปื้อนในโบท็อกซ์ปลอมอาจทำให้เกิดพิษสะสม ส่งผลต่อระบบประสาท เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรงผิดปกติ หายใจลำบาก พิษต่อระบบหัวใจและการไหลเวียนเลือด
ควรฉีดโบท็อกซ์บ่อยแค่ไหน?
โดยทั่วไป แพทย์แนะนำให้ ฉีดโบท็อกซ์ซ้ำทุก 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ตำแหน่งที่ฉีด, ปริมาณยา, และการตอบสนองของร่างกายแต่ละบุคคล
@wandeeclinic BO 250u เติมจุดไหนได้บ้าง? หมอบอมมีคำตอบ มาฟังกัน…. #วันดีคลินิก #WandeeClinic #โบลดกราม #โบลดกรามหน้าเรียว #หน้าเรียว #กรามใหญ่ #หน้าเล็กเรียวต้องมา #โบท็อก #โบท็อกซ์ #โบท็อกซ์ลดกราม #รีวิวบิวตี้ #คลินิกความงาม#คลินิกเสริมความงาม #คลินิก #สาวหน้าแกรมหน้าวี
การเลือกแพทย์และคลินิกสำคัญอย่างไร?
- ป้องกันการใช้โบท็อกซ์ปลอม เพราะแพทย์และคลินิกที่ได้มาตรฐานจะใช้ โบท็อกซ์ของแท้ ผ่านการรับรองจาก อย. เท่านั้นในการักษา
- ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ แพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถวิเคราะห์ใบหน้า ประเมินปัญหา และฉีดในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งทื่อหรือดูผิดรูป
- ลดความเสี่ยงจากการฉีดผิดตำแหน่ง การฉีดโบท็อกซ์ผิดจุดหรือใช้ปริมาณยาไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดปัญหาได้
- ความปลอดภัยจากการติดเชื้อ คลินิกที่ได้มาตรฐานจะมีการรักษาความสะอาด ปลอดเชื้อ และใช้เครื่องมือที่ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง ทำให้ลดโอกาสเกิดการติดเชื้อหลังฉีด
- การให้คำแนะนำอย่างถูกต้อง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะให้คำแนะนำในการเตรียมตัวก่อนฉีด และการดูแลหลังฉีดอย่างถูกต้อง หากเกิดผลข้างเคียง แพทย์จะสามารถให้คำแนะนำและดูแลได้อย่างเหมาะสม
- ความมั่นใจและสบายใจของคนไข้ เมื่อเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือและแพทย์ที่มีประสบการณ์ คุณจะมั่นใจได้ว่าได้รับการรักษาที่ปลอดภัย และผลลัพธ์เป็นไปตามที่คาดหวัง
ฉีดโบท็อกซ์ที่ Wandee Clinic ดีอย่างไร
- คลินิกมีใบอนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้อง
- แพทย์มีใบประกอบวิชาชีพและมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง
- ใช้โบท็อกซ์ของแท้ที่มี เลขทะเบียน อย.
- สามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์ได้ มีบรรจุภัณฑ์และฉลากชัดเจน
- คลินิกสะอาด มีการฆ่าเชื้อเครื่องมืออย่างถูกต้อง
- มีรีวิวหรือผลลัพธ์จากผู้ใช้บริการจริง
ข้อมูลเพิ่มเติม
@wandeeclinic คุณหมอบอมและคุณเฟิร์น ทีมแพทย์จาก 𝗪𝗮𝗻𝗱𝗲𝗲 𝗖𝗹𝗶𝗻𝗶𝗰 มาอัปเดตสกิลความรู้ เข้าร่วมการ 𝐓𝐫𝐚𝐧𝐢𝐧𝐠 อัพสกิล 𝗣𝗿𝗼𝗴𝗿𝗮𝗺 𝗯𝗼𝘁𝗼𝘅 ภายในงาน 𝗥𝗲𝗴𝗶𝗼𝗻𝗮𝗹 𝗡𝗮𝗯𝗼𝘁𝗮 𝗔𝗻𝗱 𝗔𝗽𝘁𝗼𝘀 𝗛𝗮𝗻𝗱𝘀-𝗼𝗻 𝗪𝗼𝗿𝗸𝘀𝗵𝗼𝗽 𝗼𝗳 𝗕𝗝𝗖 𝗔𝗲𝘀𝘁𝗵𝗲𝘁𝗶𝗰 𝗙𝗼𝗿𝘂𝗺 #WandeeClinic #วันดีคลินิก #รีวิวคลีนิก #รีวิววันดีคลีนิก #รีวิวเสริมความงาม #โปรแกรมโบท็อก #Botox #โปรแกรมโบท็อกซ์ #โปรแกรมโบท็อกซ์ลิฟกรอบ #โปรแกรมโบท็อกซ์วันดีคลินิก #ฉีดโบท็อก
ฉีดโบท็อกซ์ต้องที่ Wandee Clinic
เพราะวันดีคลินิก เป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรอง และมีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง ใช้ตัวยาของแท้สามารถตรวจสอบได้ทุกกล่อง ทั้งแพทย์มีใบประกอบวิชาชีพที่ถูกต้อง สามารถตรวจสอบได้ พร้อมทั้งมีความเชี่ยวชาญ ผ่านการเทรนและอบรมพัฒนาความรู้ใหม่ ๆ ตลอด เพื่อผลลัพธ์ที่ดีทั้งก่อนรักษาและหลังการรักษา นอกจากนั้นยังได้รับความไว้วางใจากลูกค้าที่เข้ามาใช่บริการอยู่ตลอด ทำให้สามารถไว้วางใจในเรื่องการรักษาที่ Wandee Clinic ได้เป็นอย่างดี หากสนใจสามารถสอบถามข้อมูลก่อนฉีดโบท็อกซ์ ทั้งโบท็อกซ์ลดริ้วรอย ลดตีนกา ลิฟต์กรอบหน้า สามารถแอดไลน์ @WandeeClinic เพื่อปรึกษาทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับโบท็อกซ์กับผู้เชี่ยวชาญของวันดี คลินิกได้ตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ