ปัจจุบันนี้ต้องยอมรับเลยค่ะว่าการฉีดฟิลเลอร์ eptq filler เป็นที่ฮอตฮิตจริงๆ และการแข็งขันกันบนตลาดของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อก็สูงไม่ต่างกัน วันนี้จะพามารู้จักกับ ฟิลเลอร์น้องใหม่จากแดนกิมจิ เกาหลีใต้กันค่ะ และฟิลเลอร์ของเกาหลีที่มาแรงในตอนนี้จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยนั่นก็คือ e.p.t.q (epitique) นั่นเองค่ะ
ฟิลเลอร์ e.p.t.q ที่มีจุดเด่นตั้งแต่เป็นฟิลเลอร์ที่ความบริสุทธิ์และมีความปลอดภัยสูงมาก
ซึ่ง ฟิลเลอร์ e.p.t.q. ประกอบไปด้วย 3 แบบด้วยกันแต่ละแบบก็แตกต่างกันไป แต่ละรุ่นผสมยาชามาให้ทุกตัวค่ะ ทำให้ฉีดแล้วไม่เจ็บ มันปังใช่ไหมละคะและวันนี้เราจะมาเล่าว่าแต่ละรุ่น ใช้จุดไหนบ้างแล้วแตกต่างกันยังไง
ฟิลเลอร์ e.p.t.q. คืออะไร
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ e.p.t.q. (epitique) เป็นฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลีใต้ ถือเป็นฟิลเลอร์น้องใหม่ที่น่าสนใจ เพราะใช้กระบวนการผลิตแบบ ZEEP technology (Zero Endotoxin & BDDE Entire Process) ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความปลอดภัย ไม่มีสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และโมเลกุลของ Hyaluronic Acid (HA) ที่ใช้ก็ได้รับการรับรองจาก USFDA และ EDQM ด้วยปริมาณความเข้มข้นสูงถึง 24 mg/ml
- E – Efficiency ด้วยการใช้ Hyaluronic Acid (HA) ในปริมาณความเข้มข้น 24mg/ml ในแบบโครงสร้าง HIVE structure ที่ได้มาตรฐานและได้รับการรับรองจาก USFDA และ EDQM
- P – Potential ใช้กระบวนการผลิตแบบ ZEEP technology ทำให้มีความปลอดภัยสูง และช่วยลดผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดได้สูงมาก
- T – Technology มีการใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 2CM technology และ Downing process เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของฟิลเลอร์
- Q – Quality มีการควบคุมคุณภาพการผลิตโดยใช้เกณฑ์ The 9 Essential
ฟิลเลอร์ e.p.t.q มีกี่รุ่น แตกต่างกันอย่างไร
eptq filler มีทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ S100, S300 และ S500 แต่ละรุ่นก็จะมีเนื้อฟิลเลอร์ที่แตกต่างกันไปดังนี้
- S100 เป็นรุ่นที่มีเนื้อเบาบางที่สุด มีโมเลกุลเบา ทำให้มีเนื้อที่ละเอียดมาก และมีความนิ่ม มีความยืดหยุ่นที่ดี จึงสามารถช่วยเติมเต็มริ้วรอยต่างๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติและเนียนกลืนไปกับผิว เหมาะสำหรับใช้ฉีดบริเวณหน้าผาก ขมับ ใต้ตา และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ปาก
- S300 เป็นรุ่นที่มีเนื้อไม่แข็งมากหรือนิ่มเกินไป จึงทำให้สามารถคงโครงสร้างและอยู่ได้นาน เหมาะสำหรับใช้ฉีดบริเวณหน้าผาก ขมับ แก้ปัญหาแก้มตอบ ร่องแก้ม และปาก
- S500 เป็นรุ่นที่มีโมเลกุลเนื้อฟิลเลอร์หนาและแน่นที่สุด จึงทำให้สามารถฟื้นฟูบริเวณผิวที่มีปัญหาหนักมากๆ ได้ดี เหมาะสำหรับใช้ฉีดบริเวณแนวกระดูกกราม คาง ร่องใต้ตาลึก และลิฟกรอบหน้า
ตรงไหนที่ฉีดฟิลเลอร์ได้บ้าง
- ใต้ตา ช่วยเติมเต็มเบ้าตา ร่องน้ำตาลึก แก้ไขถุงใต้ตาให้ดูลดลงและเรียบเนียนขึ้น
- จมูก ช่วยปรับรูปจมูกให้ดูโด่งขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
- แก้ม ช่วยแก้ปัญหาร่องแก้มลึก ปัญหาแก้มตอบ ช่วยเติมเต็มให้ใบหน้าดูเด็กลง ช่วยยกกระชับผิวให้เต่งตึงและเรียบเนียนขึ้น
- ริมฝีปาก ช่วยทำให้ปากดูอวบอิ่มเป็นทรงขึ้น ช่วยปรับรูปทรงปากให้ได้สัดส่วนมากขึ้น และสามารถฉีดลดริ้วรอยเล็กๆ รอบริมฝีกปากได้ด้วย
- หน้าผาก ขมับ ช่วยเพิ่มมิติให้ใบหน้า เสริมโหวงเฮ้งให้ปังขึ้น ช่วยแก้ปัญหาขมับตอบ ขมับยุบ ขมับบุ๋มได้
- คาง ช่วยเติมคางให้ดูเรียวยาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
กรอบหน้า ช่วยแก้ปัญหากรอบหน้าไม่ชัด กรอบหน้าไม่เข้ารูป ช่วยให้หน้าดูมีมิติมากขึ้น
ความแตกต่างกันของ ฟิลเลอร์ e.p.t.q. แต่ละตัวจะเหมาะสำหรับใช้ฉีดตรงไหนบ้าง
- รุ่น S100 เหมาะกับการฉีดใต้ตา ปาก ขมับ หน้าผาก เพิ่มความชุ่มชื้นให้ปาก ฟิลเลอร์ตัวใหม่
- รุ่น S300 เหมาะกับการฉีดหน้าผาก ร่องแก้ม ขอบปาก ร่องน้ำหมาก แก้ปัญหาแก้มตอบ ร่องแก้ม
- รุ่น S500 เหมาะกับการฉีดแนวกระดูกกราม คาง ขมับ ลิฟกรอบหน้า แก้ปัญหาร่องแก้มลึก ร่องใต้ตาลึก ร่องน้ำหมาก ปรับรูปหน้า
จุดเด่นของฟิลเลอร์ e.p.t.q.
- เป็น Monophasic Filler คือฟิลเลอร์ที่ทำจากสารที่เป็นเนื้อเดียว ให้ผลการฉีดที่ค่อนข้างเป็นธรรมชาติและเรียบเนียนได้ง่าย
- มี Hyaluronic Acid (HA) ความเข้มข้นสูงถึง 24mg/ml ส่งผลให้มีความคงตัวสูง มีโมเลกุลยึดเกาะที่เหนียวแน่นขึ้น ทำให้ช่วยยกกระชับผิวได้ดี ช่วยเติมเต็มริ้วรอยต่างๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นคลื่นหรือก้อนห้อยย้อย
- มี 3 รุ่น สามารถเลือกฉีดได้ตามความต้องการ ครบจบทุกจุดบริเวณทั่วใบหน้า
- ทั้ง 3 รุ่นมียาชาผสมมาเรียบร้อย ฉีดแล้วจึงรู้สึกสบาย ไม่เจ็บเท่ายี่ห้ออื่นๆ ฟิลเลอร์ตัวใหมฟิลเลอร์ตัวใหม
ฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน
หลังฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ก็จะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงประมาณ 70-80% ทันทีหลังฉีด เพราะฟิลเลอร์จะต้องใช้เวลาสมานรวมกับชั้นผิวให้เรียบเนียน จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนเต็มที่ในช่วง 2-3 สัปดาห์หลังฉีด การฉีดฟิลเลอร์ที่มีมาตรฐานจะสามารถอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่เลือกใช้ บริเวณที่ฉีด และการดูแลตัวเองด้วย ฟิลเลอร์ตัวใหม่
- ฟิลเลอร์ e.p.t.q. รุ่น S100 สามารถอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน
- ฟิลเลอร์ e.p.t.q. รุ่น S300 สามารถอยู่ได้นานประมาณ 9 เดือน
- ฟิลเลอร์ e.p.t.q. รุ่น S500 สามารถอยู่ได้นานประมาณ 1 ปี
รีวิวผู้ใช้จริง
ดูแลตัวเองหลังฉีดฉีดฟิลเลอร์ (Filler)
- งดการจับ นวด คลึง เกา ในบริเวณที่ฉีด เพราะอาจทำให้ตัวยาเคลื่อนไปอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ต้องการได้
- อาจมีอาการบวมแดงในบริเวณที่ฉีด แต่อาการจะหายไปเองภายใน 1-2 วัน
- งดการแต่งหน้า ทาครีมบำรุงผิว หลังฉีดฟิลเลอร์ 12 ชั่วโมง
- ควรทาครีมกันแดดทุกวัน และเลี่ยงการโดนแสงแดดในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
- ภายใน 48 ชั่วโมงหลังฉีด ไม่ควรออกกำลังกายหรือตากแดด เพราะอาจทำให้เกิดรอยแดงมากขึ้น
- หลังฉีดฟิลเลอร์ควรงดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ปากควรงดดื่มน้ำจากหลอด
- ควรดื่มน้ำให้มากๆ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เพื่อให้ฟิลเลอร์ฟูและเนียนสวยเป็นธรรมชาติ
- หากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์ ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที
ข้อควรระวัง
สิ่งที่ควรระวังคือไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ปลอมควรเช็คให้ดีก่อนฉีดทุกครั้ง และไม่ควรฉีดฟิลเลอร์กับหมอกระเป๋าหรือผู้ที่ไม่เชี่ยวชาญ เพราะอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายในระยะยาวได้ ซึ่งเราสามารถสังเกตดูฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานด้วยการตรวจสอบบริเวณกล่องว่ามีฉลากภาษาไทย ราคา และมีวันหมดอายุที่ระบุไว้อย่างชัดเจนหรือไม่ มี QR Code ที่ระบุวันที่ผลิต วันหมดอายุ และเลขอ้างอิงให้ตรวจจสอบได้หรือไม่ ส่วนด้านในกล่อง เมื่อเปิดแล้วผลิตภัณฑ์จะต้องบรรจุอยู่ในแพ็คเกจที่สะอาด ปิดผนึกมาอย่างดี และต้องมีเอกสารคู่มือในกล่องด้วย
วันดี คลินิก ขอนแก่น (wandee clinic ) คลินิกความงาม ที่ได้มาตรฐาน ครบวงจร พร้อมมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีความยินดีที่จะให้บริการ และคอยให้คำปรึกษาแก่คุณลูกค้าทุกท่านและแก้ปัญหาที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็น eptq filler, ฉีดฟิลเลอร์ตัวใหม่ 2022 , ฉีดฟีลเลอร์ ขอนแก่น , ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี , รีวิวฉีดฟิลเลอร์2022 , ศัลยกรรมขอนแก่น อย่างเป็นกันเองค่ะ
Tel: 097-9355556
Line: @wandeeclinic
Line คลิกที่ : https://line.me/R/ti/p/%40wandeeclinic
เว็บไซต์ : www.wandeeclinic.com