MBTOX โบท็อกซ์น้องใหม่จากประเทศเกาหลี ที่คนส่วนใหญ่นิยมเรียกว่า โบเอ็ม ที่เป็นโบท็อกซ์สายพันธุ์เกาหลี & อเมริกา ที่มีความบริสุทธิ์สูง และพึ่งผ่านการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยา (อย.) ประเทศเกาหลี ประเทศไทย และอีก 10 ประเทศทั่วโลก บทความนี้ Wandee Clinic (วันดี คลินิก) จะพาทุกท่านไปทำความเข้าใจกับ MBTOX ปลอดภัยแค่ไหน แพ้โบทำได้มั้ย? ฉบับเข้าใจง่าย

• MBTOX คืออะไร 
• MBTOX เด่นเรื่องอะไร
• โบท็อกซ์ทำงานอย่างไร?
• โบท็อกซ์กับฟิลเลอร์ต่างกันอย่างไร?
• โบท็อกซ์เหมาะกับใครบ้าง?
• โบท็อกซ์เห็นผลภายในกี่วัน?
• ผลลัพธ์จากโบท็อกซ์ Mbtox อยู่ได้กี่เดือน?
• ฉีดโบท็อกซ์แล้วหน้าจะแข็งหรือเปล่า?
• MBTOX คนแพ้โบทำได้มั้ย
• ก่อนฉีดโบท็อกซ์ต้องเตรียมตัวอย่างไร?
• อายุเท่าไหร่ถึงจะฉีดโบท็อกซ์ได้?
• หลังฉีดโบท็อกซ์ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร?
• นอนตะแคงหลังฉีดโบท็อกซ์ได้หรือไม่?
• ถ้าฉีดโบท็อกซ์ปลอมจะมีอันตรายอย่างไร?
• ควรฉีดโบท็อกซ์บ่อยแค่ไหน?
• การเลือกแพทย์และคลินิกสำคัญอย่างไร?
• ฉีดโบท็อกซ์ที่ Wandee Clinic ดีอย่างไร
• ฉีดโบท็อกซ์ต้องที่ Wandee Clinic

MBTOX เด่นเรื่องอะไร

โบเอ็ม โบท็อกซ์ มีจุดเด่นในเรื่องการใช้สายพันธุ์ Toxin A เป็นสายพันธุ์ที่นิยมใช้ในโบท็อกซ์ฝั่งยุโรป มีค่าความสุทธิ์สูงถึง 99.8% ซึ่งเป็นค่าที่สูงที่สูดของโบท็อกซ์ของประเทศเกาหลีในขณะนี้ และมีค่าความบริสุทธิ์สูงเทียบเท่าโบท็อกซ์ยุโรป แต่มีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า นอกจากนั้นยังทำให้เกิดการแพ้โบท็อกซ์น้อย และช่วยลดโอกาสการดื้อยา และมีความปลอดภัยสูงไม่มีผลข้างเคียงหลังฉีด

โบท็อกซ์ทำงานอย่างไร?

โบท็อกซ์จะทำงานโดยเข้าไปยับยั้งการทำงานของสารสื่อประสาท ที่ทำหน้าที่ส่งสัญญาณระหว่างเส้นประสาทกับกล้ามเนื้อ ซึ่งเมื่อฉีดโบท็อกซ์เข้าไปยังบริเวณที่มีกล้ามเนื้อ จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นๆ เกิดการคลายตัวชั่วคราว เพราะไม่สามารถส่งสัญญาณประสาทไปยังบริเวณกล้ามเนื้อให้หดตัวได้ตามปกติ ส่งผลให้ริ้วรอยบริเวณนั้นดูลดลง ทำให้ใบหน้าเรียบเนียนขึ้น ทั้งยังช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อกราม ทำให้กรามเล็กลงและใบหน้าดูเรียวขึ้น

อ่านเพิ่มเติม

โปรแกรม Botox คืออะไร? ฉีดตรงไหนได้บ้าง กี่วันเห็นผล รวมเรื่อง ฉีดโบท็อกซ์ ถามมา-ตอบไป คำถามยอดฮิต ฉบับเข้าใจง่าย3 เรื่องเด็ด การฉีดโบท็อกซ์แบบต่าง ๆ ฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดีอย่าพึ่งโบ!! ถ้ายังไม่รู้ว่าแตกต่างยังไง

โบท็อกซ์เหมาะกับใครบ้าง?

• ผู้ที่มีริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า เช่น รอยย่นบริเวณหน้าผาก รอยขมวดคิ้ว รอยตีนกา
• ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น ผู้ที่มีกรามใหญ่จากกล้ามเนื้อกราม ทำให้ใบหน้าดูเรียวและสมส่วนขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด
• ผู้ที่ต้องการลดขนาดกล้ามเนื้อบางจุด ลดกล้ามเนื้อน่อง ทำให้น่องดูเรียวเล็กลง ลดเหงื่อบริเวณรักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า สำหรับผู้ที่มีปัญหาเหงื่อออกมากผิดปกติ
• ผู้ที่ต้องการดูอ่อนเยาว์แบบไม่ต้องผ่าตัด โบท็อกซ์ช่วยทำให้หน้าดูเด็กลง โดยลดริ้วรอยและทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
• ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาบางอย่างที่เกี่ยวกับกล้ามเนื้อ เช่น ผู้ที่มีภาวะกล้ามเนื้อกระตุก หรือมีปัญหากล้ามเนื้อเกร็ง

อ่านเพิ่มเติม

9 เหตุผล ฉีดโบท็อกซ์ ฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดี ดีหรือร้าย เหมาะกับใคร ทำไมต้องฉีด

โบท็อกซ์เห็นผลภายในกี่วัน?

การฉีดโบท็อกซ์ ผลลัพธ์จะค่อย ๆ แสดงให้เห็นตามช่วงเวลา ดังนี้

• 3-4 วันหลังฉีด จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เช่น กล้ามเนื้อเริ่มคลายตัว ริ้วรอยบางส่วนดูจางลง
• 7-14 วันหลังฉีด ผลลัพธ์จะชัดเจนมากขึ้น ริ้วรอยจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด หน้าดูเรียบเนียนขึ้น
• 2 สัปดาห์ขึ้นไป ผลลัพธ์จะเห็นชัดเจนที่สุดในช่วงนี้ ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ และผิวดูเรียบเนียนขึ้น

ฉีดโบท็อกซ์แล้วหน้าจะแข็งหรือเปล่า?

โดยปกติ การฉีดโบท็อกซ์ จะไม่ทำให้หน้าดูแข็งหรือไร้อารมณ์ ถ้าฉีดอย่างถูกวิธีและเหมาะสม โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะโบท็อกซ์มีจุดประสงค์หลักเพื่อคลายกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดริ้วรอย แต่ไม่ใช่การหยุดการทำงานของใบหน้าทั้งหมด

สาเหตุที่ทำให้หน้าแข็งหลังฉีดโบท็อกซ์

• ฉีดในปริมาณที่มากเกินไป การฉีดโบท็อกซ์หากฉีดในปริมาณที่มากเกินความจำเป็น อาจทำให้กล้ามเนื้อไม่สามารถขยับได้อย่างเป็นธรรมชาติ
• ฉีดในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง การฉีดผิดจุดหรือไม่ตรงกับกล้ามเนื้อบริเวณที่จะฉีด อาจส่งผลต่อการแสดงสีหน้าได้
• แพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญ หากแพทย์ไม่มีประสบการณ์ อาจประเมินปริมาณและตำแหน่งในการฉีดไม่เหมาะสม

อ่านเพิ่มเติม

รีวิวโปรแกรมโบท็อกซ์ลดกราม ปรับหน้าเรียว จากคุณหมิว

ก่อนฉีดโบท็อกซ์ต้องเตรียมตัวอย่างไร?

• ศึกษาข้อมูลคลินิก แพทย์ และการตรวจสอบตัวยาให้แน่ใจก่อนเข้ารักษาทุกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงหลังการรักษา
• งดการใช้ยาที่ทำให้เลือดออกง่าย เช่น ยาแอสไพริน ยากลุ่มต้ามการอักเสบ (NSAIDs) วิตามินอี, น้ำมันปลา, โสม, กระเทียม สมุนไพรหรือยาบางชนิดที่ทำให้เลือดออกง่าย 7 วันก่อนรักษา
• งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 24 ชั่วโมง ก่อนฉีดโบท็อกซ์ เพราะการดื่มแอลกอฮอล์อาจทำให้เลือดออกง่ายและช้ำหลังฉีดได้
• งดการแต่งหน้าในวันฉีด ควรล้างหน้าให้สะอาดและไม่แต่งหน้า เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกและการติดเชื้อ 
• พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายพร้อมและลดความกังวล 
• งดออกกำลังกายหนักก่อนฉีด หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ ก่อนฉีดประมาณ 24 ชั่วโมง เพราะอาจทำให้เลือดสูบฉีดมากขึ้น และเกิดรอยเขียวช้ำได้ง่าย
• แจ้งประวัติสุขภาพกับแพทย์ หากมีโรคประจำตัวหรือมีประวัติการทานยา และการแพ้ยา ควรแจ้ให้ทราบแพทย์ก่อนทำการรักษา

อ่านเพิ่มเติม

Botox ปลอม หรือ Botox แท้ แต่ละยี่ห้อเช็คให้ชัวร์

หลังฉีดโบท็อกซ์ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร?

• ห้ามนอนราบหรือนอนตะแคงภายใน 4 ชั่วโมงหลังฉีด เพื่อป้องกันไม่ให้โบท็อกซ์กระจายไปยังตำแหน่งอื่นที่ไม่ต้องการ 
• ห้ามนวด, กด หรือสัมผัสแรง ๆ บริเวณที่ฉีด โดยเฉพาะในช่วง 24 ชั่วโมงแรก เพราะอาจทำให้ตัวยาเคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง 
• งดออกกำลังกายหนัก หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ และกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก ภายใน 24 ชั่วโมงแรก 
• งดดื่มแอลกอฮอล์และของร้อนจัด ควรงดแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มร้อนจัดอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อลดการเกิดรอยช้ำและบวม 
• หลีกเลี่ยงการทำหัตถการหรือทรีตเมนต์อื่น ๆ บนใบหน้า เช่น เลเซอร์, นวดหน้า, ซาวน่า, การทำทรีตเมนต์ต่าง ๆ ควรงดอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
• หลีกเลี่ยงความร้อน งดเข้าซาวน่า, อบไอน้ำ, ตากแดดจัด ๆ เพราะความร้อนอาจทำให้ประสิทธิภาพของโบท็อกซ์ลดลง
• ขยับกล้ามเนื้อในจุดที่ฉีดเบา ๆ ขยับกล้ามเนื้อ เช่น ยิ้ม, ขมวดคิ้ว, ยกคิ้วเบา ๆ เพื่อช่วยให้โบท็อกซ์ออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น (แต่ไม่ควรสัมผัสแรง ๆ) 
• ดื่มน้ำมาก ๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็ว และทำให้โบท็อกซ์คงประสิทธิภาพได้นานขึ้น

นอนตะแคงหลังฉีดโบท็อกซ์ได้หรือไม่?

หลังฉีดทันทีไม่แนะนำให้นอนตะแคงหรือนอนราบภายใน 4 ชั่วโมงหลังฉีด เพราะการนอนราบหรือนอนตะแคงอาจทำให้ตัวยา กระจายผิดตำแหน่ง ไปยังบริเวณอื่นที่ไม่ต้องการ ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เช่น หนังตาตกหรือหน้าเบี้ยวได้ และหลังฉีดครบ 4 ชั่วโมงหลังฉีดแล้ว สามารถนอนตะแคงหรือนอนท่าปกติได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการกดทับบริเวณที่ฉีดแรง ๆ

ควรฉีดโบท็อกซ์บ่อยแค่ไหน?

โดยทั่วไป แพทย์แนะนำให้ ฉีดโบท็อกซ์ซ้ำทุก 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ตำแหน่งที่ฉีด, ปริมาณยา, และการตอบสนองของร่างกายแต่ละบุคคล

การเลือกแพทย์และคลินิกสำคัญอย่างไร?

• ป้องกันการใช้โบท็อกซ์ปลอม เพราะแพทย์และคลินิกที่ได้มาตรฐานจะใช้ โบท็อกซ์ของแท้ ผ่านการรับรองจาก อย. เท่านั้นในการักษา
• ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ แพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถวิเคราะห์ใบหน้า ประเมินปัญหา และฉีดในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งทื่อหรือดูผิดรูป 
• ลดความเสี่ยงจากการฉีดผิดตำแหน่ง การฉีดโบท็อกซ์ผิดจุดหรือใช้ปริมาณยาไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดปัญหาได้
• ความปลอดภัยจากการติดเชื้อ คลินิกที่ได้มาตรฐานจะมีการรักษาความสะอาด ปลอดเชื้อ และใช้เครื่องมือที่ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง ทำให้ลดโอกาสเกิดการติดเชื้อหลังฉีด
• การให้คำแนะนำอย่างถูกต้อง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะให้คำแนะนำในการเตรียมตัวก่อนฉีด และการดูแลหลังฉีดอย่างถูกต้อง หากเกิดผลข้างเคียง แพทย์จะสามารถให้คำแนะนำและดูแลได้อย่างเหมาะสม
• ความมั่นใจและสบายใจของคนไข้ เมื่อเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือและแพทย์ที่มีประสบการณ์ คุณจะมั่นใจได้ว่าได้รับการรักษาที่ปลอดภัย และผลลัพธ์เป็นไปตามที่คาดหวัง

Boneu หรือ โบนิว โบท็อกซ์สัญชาติเกาหลี ที่มีความบริสุทธิ์สูง ที่การันตีด้วยข้อบ่งชี้และงานวิจัยถึง 13 ฉบับที่ถูกตีพิมพ์ ทำให้สามารถมั่นใจได้ว่าเป็นโบท็อกซ์ที่มาพร้อมคุณภาพและความปลอดภัย ในราคาที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย แต่หลายคนก็ยังกังวลว่าใช้แบคทีเรียสายพันธุ์แท้ นั้นมีความน่ากลัวมากน้อยเพียงไหนถึงสามารถนำมาเติมเข้าร่างกายได้ บทความนี้ Wandee Clinic (วันดี คลินิก) จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ Boneu โบท็อกซ์สายพันธุ์ออริจินอลคืออะไร ช่วยลดการดื้อยาได้จริงมั้ย ทำกี่ครั้งเห็นผล

• Boneu โบลูกครึ่งเกาหลีสายพันธุ์อเมริกา
• แบคทีเรียสายพันธุ์แท้ออริจินัล Hall A Hyper คืออะไร
• Boneu โบท็อกซ์ แตกต่างจากโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่นอย่างไร
• โบนิว มีกี่รุ่น
• โบท็อกซ์ Boneu ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง
• ก่อนฉีด โบท็อกซ์ ต้องเตรียมตัวอย่างไร
• การดูแลตนเองหลังฉีดโบท็อกซ์
• ฉีดโบท็อกซ์แล้วสามารถแต่งหน้าได้ไหม
• ฉีดโบท็อกโบนิว กี่วันเห็นผล
• ฉีดโบท็อก นอนตะแคงได้ไหม
• โบท็อกอยู่ได้กี่เดือน
• ความแตกต่างระหว่างโบท็อกซ์กับฟิลเลอร์
• หลังฉีดโบ ล้างหน้าได้ไหม
• โบนิว ช่วยลดการดื้อยาได้จริงมั้ย

Boneu โบลูกครึ่งเกาหลีสายพันธุ์อเมริกา

เมื่อพูดถึงโบท็อกซ์แน่นอนว่าสรรพคุณหลักก็คือ การทำให้หน้ากระชับ หน้าตึง ลดขนาดกรามให้หน้า V-Shape ทำให้เป็นหัตถการที่ค่อนข้างเป็นที่นิยมของคนที่อยากหน้าเรียวนั่นเอง ซึ่ง Boneu ก็เป็นโบท็อกซ์อีกชนิดหนึ่งที่พึ่งมีการเปิดตัวเมื่อมิถุนายน 2567 ที่ผ่านมาว่าเป็น โบท็อกซ์ลูกครึ่งเกาหลีสายพันธุ์อเมริกา ที่ใช้แบคทีเรียสายพันธุ์แท้ออริจินัล Hall A Hyper ที่ผ่านการวิจัยและพัฒนาโดย University of Wisconsin, Madison ว่าเป็นสายพันธุ์ที่สามารถผลิต Botulinum Toxin ได้มีประสิทธิภาพสูงสุด และเป็นสายพันธุ์เดียวกับโบท็อกซ์แบรนด์อเมริกา

Boneu โบท็อกซ์ แตกต่างจากโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่นอย่างไร

เนื่องจากใช้แบคทีเรียสายพันธุ์แท้ที่มีการรับรองจากอเมริกาว่ามีความปลอดภัยและมีความบริสุทธิ์สูง เลยทำให้โบท็อกซ์ โบนิวมีจุดเด่นแตกต่างจากโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่น ดังนี้

• ใช้เทคโนโลยีในการผลิตขั้นสูงเพื่อให้ได้ความบริสุทธิ์สูงถึง 99.7% 
• มีกระบวนการควมคุมไม่ให้โปรตีนอื่นเข้ามาปนปื้อน ที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการดื้อยา
• มีเทคโนโลยีในการควบคุมคุณภาพ เพื่อการเห็นผลลัพธ์เท่ากันทุกครั้งหลังฉีด 
• เห็นผลไว ซึ่งจะเห็นผลได้ตั้งแต่ 2-7 วันหลังฉีด
• ไม่ดื้อโบ จากการผลิตด้วยเทคโนโลยีใหม่ทำให้ โบนิวไม่กระจายตัว และมีคงสร้างที่คงตัวสูง ทำให้สามารถออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่
• เห็นผลนาน สามารถคงอยู่ได้ 4-6 เดือน แต่ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตประจำวันและการดูแลรักษาของผู้ฉีด

โบนิว มีกี่รุ่น

โบท็อกซ์โบนิวนั้น มีทั้งหมด 3 รุ่น ดังนี้

• ขวดสีแดง 50 Units 

เหมาะกับฉีดในบริเวณเล็ก ๆ ที่มีปัญหาไม่เยอะ เช่น บริเวณหน้าผาก หรือ ผู้ที่มีปัญหากรามไม่ใหญ่มาก

• ขวดสีฟ้า 100 Units 

เหมาะกับการฉีดกล้ามเนื้อมัดใหญ่ และต้องการรักษาหลายจุด

• ขวดสีส้ม 200 Units 

เหมาะกับการฉีดบริเวณที่มีขนาดใหญ่ จุดที่ต้องการลดเยอะ อย่างการลดอาการปวดบ่า ไหล่ หรือบริเวณเนื้อน่อง

ก่อนฉีด โบท็อกซ์ ต้องเตรียมตัวอย่างไร

• ศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ คลินิก และแพทย์ ให้ถูกต้องก่อนตัดสินใจ โดยควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้ฉีด เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตถูกต้อง สามารถตรวจสอบได้ พร้อมทั้งดูข้อมูลแพทย์ประจำคลินิกนั้น ๆ ว่ามีความเชี่ยวชาญหรือไม่
• งดการทานยากลุ่ม NSAIDs เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อลดการเกิดรอยช้ำหลังการรักษา
• งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนฉีด
• พักผ่อนให้เพียงพอ
• งดทานอาหารเสริม อย่างวิตามินเอ หรือวิตามินที่มีสารสกัดจากใบแปะก๊วยและน้ำมันปลา อย่างน้อย 7 วันก่อนทำการรักษา
• ตรวจสอบตัวยาก่อนทำการรักษาทุกครั้ง

การดูแลตนเองหลังฉีดโบท็อกซ์

• งดนวดหน้า การกด และการคลึงบริเวณที่ฉีด 4-7 วัน
• งดก้มหน้า และการนอนราบ 2-3 ชั่วโมงหลังทำการรักษา
• งดออกกำลังกายหนัก
• งดการอยู่ในที่ร้อนและกิจกรรมที่ต้องใช้ความร้อน เช่น การอาบน้ำอุ่น การแช่น้ำร้อน การทานปิ้งย่าง ชาบู เป็นต้น 
• หลังทำการรักษาจะมีอาการบวมหรือแดงในบริเวณที่ฉีด ซึ่งรอยแดงและอาการบวมนี้จะหายไปเองภายใน 2-4 ชั่วโมง โดยสามารถใช้น้ำแข็งประคบเย็น และอาจจะเกิดรอยช้ำ แต่จะหายไปเองภายใน 7 วัน

ฉีดโบท็อกซ์แล้วสามารถแต่งหน้าได้ไหม

หากมีความจำเป็นในการแต่งหน้าจริง ๆ สามารถแต่งได้ แต่ควรแต่งหลังจากผ่านไปแล้ว 24 ชั่วโมงหลังจากการรักษา หลังจากผ่าน 24 ชั่วโมงไปแล้ว สามารถแต่งหน้าได้ แต่หลีกเลี่ยงการกระทำที่รุนแรงอย่างการ ลงคุชชั่นแรงๆ หรือการลงแป้งแรงๆ เพราะอาจทำให้โบท็อกซ์เคลื่อนที่หรือเกิดการกระจายตัวไปบริเวณอื่นได้

ฉีดโบท็อก นอนตะแคงได้ไหม

หลังทำการรักษา ควรงดการนอนตะแคงหรือการนอนราบ เป็นเวลา 4-7 ชั่วโมง เพราะโบท็อกซ์อาจเคลื่อนและกระจายไปจุดอื่นได้

โบท็อกอยู่ได้กี่เดือน

โบท็อกซ์ เป็นหัตถการที่ให้ผลลัพธ์ไม่ถาวร จึงทำให้ต้องฉีดซ้ำตามความต้องการของผู้ฉีด โดยทั่วไปสามารถอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ซึ่งผลลัพธ์ขึ้นอยู่แล้วแต่บุคคลค่ะ

หลังฉีดโบ ล้างหน้าได้ไหม

หลังฉีดโบท็อกซ์ สามารถล้างหน้า และทำความสะอาดได้ปกติ แต่แนะนำว่าควรทำอย่างเบามือ อย่าถูแรง เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้โบท็อกซ์เคลื่อน และกระจายตัวไปยังบริเวณอื่น

โบท็อกซ์ตัวใหม่จากประเทศเกาหลี ภายใต้แบรนด์ HUTOX inj. ที่คาดว่าจะได้รับความนิยมอย่างมากในปี 2025 เพราะมีความบริสุทธิ์สูง และมีจุดเด่นหลายอย่าง แต่หลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้จักว่าโบท็อกซ์ชนิดนี้ว่ามีข้อดีอย่างไรบ้าง แล้วทำไมถึงจะกลายเป็นโบท็อกซ์ที่จะได้รับความนิยม บทความนี้ Wandee Clinic (วันดี คลินิก) จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ Hutox โบท็อกซ์ คืออะไร แตกต่างจากโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่นอย่างไร มีจุดเด่นอะไรบ้าง เหมาะกับใคร อันตรายไหม

• Hutox คืออะไร
• ข้อดีของ Hutox
• Hutox เติมจุดไหนได้บ้าง
• ก่อนฉีด ต้องเตรียมตัวอย่างไร
• ข้อปฏิบัติหลังฉีดโบท็อกซ์ 
• ใครบ้างที่ไม่ควรฉีด โบท็อกซ์
• โบท็อกซ์ Hutox อันตรายมั้ย
• โบท็อกซ์ Hutox แท้ตรวจสอบอย่างไร?
• หลังฉีด โบท็อกซ์ ห้ามกินอะไร
• หลังฉีดโบท็อกซ์ ดื่มกาแฟได้ไหม
• ข้อเสียของโบท็อกซ์
• ผลการทดสอบฉีด Hutox บริเวณหน้าผาก พบว่า
• ฉีดโบท็อกซ์ Hutox ต้องที่ Wandee Clinic

ก่อนฉีดต้องเตรียมตัวอย่างไร

• ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโบท็อกซ์ให้เข้าใจ รวมไปถึงการเลือกคลินิกที่ได้คุณภาพและแพทย์ต้องมีประสบการณ์ในการรักษาจริง 
• หยุดการใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDS อย่าง Brufen, Naproxen, Motrin วิตามินอี น้ำมันปลา จิงโกะ เป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อลดการเกิดรอยฟกช้ำ
• งดทานเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง
• หยุดทานวิตามิน A, AHA
• งดการสครับหน้า ขัดหน้า เป็นเวลา 1-2 วันก่อนฉีด

ข้อปฏิบัติหลังฉีดโบท็อกซ์ 

• อย่ากด หรือนวด บริเวณที่ฉีด เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้โบท็อกซที่ฉีดไปนั้นเกิดการเคลื่อน และกระจายตัว
• งดนอนราบและก้มหน้า เป็นเวลาประมาณ 4-6 ชั่วโมงแรกหลังฉีด เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนมาที่บริเวณใบหน้ามากขึ้น อาจทำให้โบท็อกซ์ไหลไปบริเวณอื่นได้
• หลีกเลี่ยงความร้อน อย่างการอบซาวน่า อบไอน้ำ การอยู่หน้าเตาที่มีความร้อน รวมไปถึงการอาบน้ำร้อนจัดในช่วง 24 – 48 ชั่วโมงหลังฉีด
• งดออกกำลังกายหนัก ในช่วง 24 – 48 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของโบท็อกซ์ที่ฉีด
• หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์อาจทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น อาจส่งผลต่อการทำงานของโบท็อกซ์ที่ฉีดไปได้
• ดื่มน้ำให้เพียงพอ 
• รอยนูนบริเวณที่ฉีด จะหายไปเองภายใน 1 วัน หากมีอาการผิดปกติ อย่างรู้สึกปวดในบริเวณที่ฉีดอย่างรุงแรง หรือมีความบวมมากแล้วไม่หาย ควรพบแพทย์ทันที
• ในกรณีที่มีอาการบวมแดงหรือช้ำ สามารถใช้น้ำแข็งประคบได้

โบท็อกซ์ Hutox แท้ตรวจสอบอย่างไร?

1. ขูด QR Code ข้างกล่องเบาๆ
2. สแกน QR Code หรือ Add line @dermalink
3. กด “ตรวจสอบผลิตภัณฑ์”
4. กด Hutox inj.
5. กรอกรหัสที่อยู่ใต้ QR Code ลงในช่อง
6. เมื่อสแกนเสร็จแล้ว จะขึ้นว่าสินค้าของคุณเป็นของแท้

ฉีดโบท็อกซ์ Hutox มีจุดเด่นอะไรบ้าง

Hutox คือ โบท็อกซ์ที่มีส่วนประกอบที่สำคัญคือ Botulinum Toxin Type A (HU-014) ขนาด 900kDA มาในรูปแบบ Lyophilized Powder ซึ่งมีจุดเด่นคือมีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.8% เริ่มรู้สึกตึงได้ไว ทั้งยังมีราคาที่เหมาะสม จึงทำให้เป็นโบท็อกซ์ที่กำลังจะได้รับความนิยมในไม่นานอย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้ก่อนฉีดทุกครั้งก็ควรเลือกฉีดกับคลินิกที่มีมาตรฐาน มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ทำการรักษา และเช็คให้ชัวร์ว่าเป็นโบท็อกซ์ของแท้ มีรายละเอียดภาษาไทยกำกับครบถ้วน พร้อมหมายเลข อย. ที่ข้างกล่อง และแพทย์จะต้องแสดงรายละเอียดให้เราดูอย่างครบถ้วนก่อนเริ่มการรักษา สนใจสอบถามข้อมูลก่อนฉีดโบท็อกซ์ ทั้งโบท็อกซ์ลดริ้วรอย ลดตีนกา ลิฟต์กรอบหน้า สามารถแอดไลน์ @WandeeClinic เพื่อปรึกษาทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับโบท็อกซ์กับผู้เชี่ยวชาญของเราได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลยค่ะ

ในปี 2025 นี้ จะได้เห็นโบท็อกซ์ลูกครึ่งเกาหลีสายพันธุ์อเมริกา ที่มีการวิจัยแล้วว่าได้ผลลัพธ์ที่ดี มีความปลอดภัย และสามารถลดการดื้อโบได้ เป็นที่นิยมในประเทศไทยมากขึ้น แต่ก่อนที่จะเลือกใช้เรามาทำความรู้จักกับ โบท็อกซ์โบนิว โดย Wandee Clinic (วันดี คลินิก) กันดีกว่าค่ะ ว่าดีอย่างไร ทำไมถึงได้เรียกว่าเป็นลูกครึ่งเกาหลีสายพันธุ์อเมริกา ผ่านบทความ โบนิว โบท็อกซ์ใหม่ 2025 เด่นเรื่องอะไร ดีไหม ฉีดตรงไหนได้บ้าง

Boneu มีกี่แบบ

การแบ่งจากการเรียกหน่วยของโบท็อกซ์ หรือที่เรียกว่า ยูนิตนั้น สามารถแบ่งออกได้ 3 แบบ ดังนี้

Boneu ราคา

ราคาในคลินิกต่าง ๆ มักจะมีราคาตั้งแต่ 3,9xx – 12,9xx ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณและบริเวณที่ต้องใช้ในการฉีด และควรศึกษาข้อมูลโปรโมชั่นของคลินิกที่สนใจจะเข้าไปใช้บริการ แต่หากมีราคาที่ถูกจนเกินไปแนะนำให้หลีกเลี่ยง เพราะอาจจะเป็นยาที่ไม่ได้มาตรฐานได้ค่ะ

โดยบริษัท Allergan เป็นผู้ผลิตรายแรกของโลกที่นำสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ที่สกัดมาจากแบคทีเรียชนิดหนึ่ง คือ คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) มาใช้ในด้านความงาม เพื่อช่วยลดริ้วรอย ทำให้ผิวเต่งตึง และใช้ปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับได้อย่างเห็นผล และต่อมาภายหลังผู้ผลิตรายอื่นๆ ก็ได้นำเอาสารโบทูลินัม ท็อกซินเอ ชนิดนี้ไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อความงามอีกหลากหลายยี่ห้อ เช่น Dysport, Xeomin, Aestox, Nabota เป็นต้น

สรุปได้ว่า Allergan Botox นับเป็นแบรนด์แรกของโลกที่นำสารโบทูลินัมมาใช้ในวงการความงาม ด้วยประวัติความเป็นมาที่ยาวนานกว่า 33 ปี มีผลงานวิจัยรองรับมากกว่า 3,500 ชิ้น ทั้งยังเป็นโบท็อกซ์ยี่ห้อแรกของโลกที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์กรอาหารและยา ประเทศสหรัฐอเมริกา (US-FDA) ทำให้โบท็อกซ์ Allergan ได้รับความนิยมในวงการความงามในหลายประเทศทั่วโลก การันตีด้วยยอดขายรวมกว่า 100 ล้านขวด

โบท็อกซ์ Allergan เหมาะกับใคร ฉีดตรงไหนได้บ้าง

Allergan Botox คือ เป็นโบท็อกซ์ที่เหมาะกับทุกคนที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึก ผิวไม่กระชับ มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด และจะเหมาะมากๆ สำหรับคนที่อยากเห็นผลลัพธ์หลังการรักษาที่ชัดเจน แม่นยำ ฉีดตรงไหนก็สวยตรงนั้น ฉีดแล้วอยู่ได้นาน ทั้งยังให้งานผิวที่สวยฉ่ำ เป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้หน้าตึง หน้าแข็ง เพราะความบริสุทธิ์ของตัวยา และการกระจายตัวในวงแคบ แพทย์จึงนิยมใช้ โบท็อกซ์ Allergan ฉีดในบริเวณเหล่านี้

• โบท็อกซ์ Allergan ลดริ้วรอยหน้าผาก
• โบท็อกซ์ Allergan ลดรอยย่นระหว่างคิ้ว
• โบท็อกซ์ Allergan ลดริ้วรอยรอบดวงตา รอยตีนกา
• ทั้งยังนิยมฉีดโบท็อกซ์ Allergan เข้ากล้ามเนื้อบริเวณคาง และขากรรไกร เพื่อปรับให้หน้าเรียวสวย ลิฟต์กรอบหน้าให้คมชัดมากยิ่งขึ้น
• ฉีดลดเหงื่อที่รักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า
• ฉีดลดขนาดกล้ามเนื้อน่อง กล้ามเนื้อแขน ลดปัญหาแขนใหญ่

ซึ่งหลังฉีดโบท็อกซ์ Allergan จะอยู่ได้นานสูงสุด 6-8 เดือน แต่ทั้งนี้ก็จะขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด ปริมาณที่ใช้ สภาพผิว/อายุของคนไข้ และการดูแลผิวของคนไข้หลังเข้ารับการรักษาด้วยเช่นเดียวกันค่ะ

สำหรับสาวๆ คนไหนที่สนใจอยากฉีดโบท็อกซ์ แต่ยังสับสนและไม่มั่นใจว่าควรเลือกฉีดโบท็อกซ์ตัวไหนดี เพื่อให้เห็นผลลัพธ์หลังการรักษาที่สวยปัง แม่นยำ ชัดเจนมากที่สุด วันดีคลินิกแนะนำได้เลยว่า Allergan Botox คือคำตอบที่ใช่อย่างแน่นอนค่ะ เพราะโบท็อกซ์ Allergan มีความปลอดภัยสูง ผ่านการมาตรฐานจากองค์กรอาหารและยา ประเทศสหรัฐอเมริกา (US-FDA) รวมถึงผ่าน อย. ประเทศไทย ตัวยามีความบริสุทธิ์สูงที่สุดที่ 99.5% การันตีด้วยยอดขายรวมกว่า 100 ขวดทั่วโลก แต่ทั้งนี้ก่อนฉีดทุกครั้งก็ควรเลือกฉีดกับคลินิกที่มีมาตรฐาน มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ทำการรักษา และเช็คให้ชัวร์ว่าเป็นโบท็อกซ์ Allergan ของแท้ มีรายละเอียดภาษาไทยกำกับครบถ้วน พร้อมหมายเลข อย. ที่ข้างกล่อง และแพทย์จะต้องแสดงรายละเอียดให้เราดูอย่างครบถ้วนก่อนเริ่มการรักษา

รีวิวฉีดโบท็อกซ์ NABOTA วันดีคลินิก

• Botox Hugel คืออะไร

• Botox Hugel ดีอย่างไร

• Botox Hugel แตกต่างจากโบท็อกซ์ตัวอื่นๆ อย่างไร

• Botox Hugel ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง

• Botox Hugel ราคาเท่าไหร่

• Botox Hugel อยู่ได้กี่เดือน

• รีวิว Botox Hugel วันดีคลินิก

Botox Hugel คืออะไร

Botox Hugel เป็นโบท็อกซ์คุณภาพพรีเมียม ที่อาจเรียกได้ว่าเป็นโบท็อกซ์คุณภาพที่ดีที่สุดจากประเทศเกาหลีใต้ (คุณภาพเทียบเท่ากับโบท็อกซ์ฝั่งยุโรปเลยทีเดียวค่ะ)  วิจัยพัฒนา และผลิตสินค้าโดยบริษัท Hugel Inc. (เจ้าของเดียวกันกับโบท็อกซ์ Botulax และ Aestox) ผ่านการรับรองมาตรฐาน จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งประเทศเกาหลี (KFDA) และผ่านการรับรองมาตรฐานจาก อย. ไทย เป็นที่เรียบร้อย Botox hugel มีด้วยกัน 2 ขนาด คือ ขนาด 200 Units (กล่องและขวดสีม่วง) และ ขนาด 50 Units (กล่องและขวดสีเขียว)

Botox Hugel แตกต่างจากโบท็อกซ์ตัวอื่นๆ อย่างไร

• โบท็อกซ์ Hugel วิจัยและพัฒนาโดย บริษัท Hugel Inc. ซึ่งเป็นเจ้าของ Botox ชื่อดังอีก 2 ตัว อย่าง Botulax และ Aestox จึงมั่นใจได้เลยว่าบริษัทผู้ผลิตมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่อง Botox เป็นอย่างดี โบท็อกซ์มีคุณภาพและปลอดภัย 100%
• โบท็อกซ์ Hugel มีความบริสุทธิ์ของตัวยาสูงถึง 99.5% ซึ่งมีค่าความบริสุทธิ์สูงมาก ลดโอกาสที่จะเกิดการดื้อยา และสามารถใช้ฉีดในคนที่มีภาวะดื้อโบท็อกซ์ได้
• ตัวยา Botulinum toxin ในโบท็อกซ์ Hugel ได้ถูกพัฒนามาให้มีคุณภาพระดับพรีเมียม เมื่อฉีดลงผิวแล้วจะกระจายตัวได้แคบ ช่วยปรับให้ผิวดูเรียบเนียน สวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ ริ้วรอยแลดูตื้นขึ้น เห็นผลได้ไวหลังจากการฉีด 2-3 วัน
•  โบท็อกซ์ Hugel สามารถคงผลลัพธ์หลังการรักษาได้นานประมาณ 4-6 เดือน

Botox Hugel เป็นโบท็อกซ์ที่มีคุณภาพ และให้ประสิทธิภาพหลังการรักษาได้เกือบเทียบเท่ากับโบท็อกซ์จากฝั่งยุโรป แต่มีระดับราคาที่ย่อมเยากว่า

Botox Hugel ราคาเท่าไหร่

Botox Hugel ราคาเริ่มต้นที่ 6,xxx-9,xxx บาท ทั้งนี้ราคาของการฉีด Botox Hugel นั้นจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับบริเวณที่เลือกฉีด และปริมาณ (Units) ที่ใช้ เช่น ฉีดโบท็อกซ์ลดต้นแขน ลดน่อง จะต้องใช้ปริมาณ Units มากกว่า และทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงกว่า Botox Hugel ดีไหม

Botox Hugel อยู่ได้กี่เดือน

ผลลัพธ์หลังการฉีด Botox Hugel ดีไหม จะอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ทั้งนี้ผลลัพธ์อาจจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด และการดูแลผิวหลังการฉีดของคนไข้

สรุปได้ว่า Botox Hugel เป็นโบท็อกซ์คุณภาพพรีเมียมจากประเทศเกาหลีใต้ ที่พัฒนาโดยบริษัทที่มีชื่อเสียงด้านโบท็อกซ์อย่าง Hugel Inc. คุณภาพและประสิทธิภาพของโบท็อกซ์ เทียบเท่ากับโบท็อกซ์จากฝั่งยุโรป แต่มีราคาที่ย่อมเยากว่า เห็นผลลัพธ์หลังการฉีดได้รวดเร็ว เพียง 2-3 หลังการฉีด ฉีดแล้วอยู่ได้นาน 4-6 เดือน และสามารถใช้ฉีดเพื่อแก้ปัญหาผิวได้หลากหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นบนผิวหน้า ลดกราม ลิฟต์กรอบหน้า ลดขนาดกล้ามเนื้อแขนและน่อง รวมถึงฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ ลดอาการปวดหัวจากไมเกรน

Topic

• 5 อันตราย จากโบท็อกปลอม น่ากลัวกว่าที่คิด
• ฉีดโบท็อกซ์ ปลอมแล้วดื้อโบท็อก ต้องทำอย่างไร
• ตอบคำถาม ข้อควรรู้ ก่อนฉีดโบท็อก

5 อันตราย จากโบท็อกปลอม น่ากลัวกว่าที่คิด

ก่อนจะไปดูอันตรายที่เกิดขึ้นจากการฉีดโบท็อกซ์ ปลอม มาทำความรู้จักกับสารที่เรากำลังจะนำเข้าสู่ร่างกายกันก่อน กล่าวคือ โบท็อก เป็นชื่อที่มาจากสารสกัด Botulinum toxin A ซึ่งเป็นโปรตีนที่สกัดมาจากแบคทีเรียชนิดหนึ่งชื่อว่า Clostridium Botulinum โดยจะทำหน้าที่ออกฤทธิ์ไปยับยั้งเซลล์ประสาท ไม่ให้ผลิตสาร Acetylcholin ซึ่งสารตัวนี้เองที่ทำหน้าที่สั่งให้กล้ามเนื้อหดตัว ดังนั้นแล้ว การฉีดโบท็อกซ์ จึงสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยและช่วยปรับรูปหน้า โดยกลไกการลดขนาดของกล้ามเนื้อกรามและลดขนาดของกล้ามเนื้อบริเวณต่างๆ ที่ได้รับสารโบท็อกเข้าไป และเนื่องจากโบท็อกเป็นสารที่ได้จากธรรมชาติจึงไม่ก่อให้เกิดอันตรายนั่นเอง แน่นอนว่าเมื่อการฉีดโบท็อกเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ทำให้มีทั้ง Botox ปลอม Botox หิ้ว ออกมาจำหน่ายมากมาย ด้วยราคาที่ถูกแต่ไม่ได้ประสิทธิภาพ กระนั้นก็ยังมีผู้เลือกใช้บริการ โดยที่คาดไม่ถึงว่า โบท็อกปลอม แฝงด้วยอันตรายมากมายกว่าที่เราจะคาดคิดได้ อย่างไรบ้างนั้นไปดูกันเลย

Botulinum Toxin A ชื่อของสารสกัดที่เราเรียกง่ายๆกันว่า โบท็อกซ์ เป็นสารสกัดที่ได้จากธรรมชาติจึงสามารถสลายไปได้เองเมื่อถึงระยะเวลาหนึ่ง สามารถนำมาฉีดได้หลายตำแหน่งบนใบหน้า โดยเฉพาะการลดริ้วรอย ฉีดลดกราม ปรับรูปหน้าเรียววีเชฟ และอีกมากมาย ทำให้โบท็อกกลายเป็นการทำหัตถการยอดนิยมในปัจจุบัน แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้โบท็อกแท้ ซึ่งมีวิธีการดูง่ายๆ ดังนี้

• Botox แท้ จะต้องมีฝาพลาสติกใสปิดทับอยู่ด้านบน
• ของแท้ต้องมีตัวหนังสือภาษาไทยหรือที่เรียกกันว่าสลากภาษาไทย กำกับไว้อย่างชัดเจน โดยฉลาดนั้นจะต้องระบุเลขที่อย. รวมถึงวันผลิตและวันหมดอายุ ที่กล่องกับขวดต้องตรงกัน
• มีข้อมูลระบุอย่างชัดเจนว่านำเข้าโดยบริษัทใด

ด้วยความนิยมในการฉีดBotox ทำให้ในปัจจุบันนี้มีผู้ที่ต้องการเป็นหมอ เพื่อทำหน้าที่บริการฉีดโบท็อก ให้กับสาวๆ ที่ต้องการมากมาย เราเรียกกลุ่มคนเหล่านี้ว่าหมอกระเป๋า ซึ่งชื่อเรียกนี้ก็มีที่มาจาก การให้บริการแบบไม่มีหลักแหล่ง สามารถหิ้วกระเป๋าไปเปิดทำการรักษาได้เรื่อยๆ ตามที่ต่างๆ ซึ่งการบริการจากหมอกระเป๋า มักจะมาพร้อม โบท็อกปลอมหรือโบท็อกหิ้ว ซึ่งจะสามารถให้บริการได้ในราคาที่ถูกเกือบเท่าตัว ทำให้หลายคนรวมตัวไปใช้บริการ บ้างก็รู้ว่าเป็นหมอกระเป๋า บ้างก็ไม่รู้แต่เห็นว่าราคาถูก แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้บริการหมอกระเป๋าด้วยเหตุผลใด รู้หรือไม่ว่าอันตรายที่เกิดจากการฉีดโบท็อกปลอม น่ากลัวกว่าที่คิด ซึ่งหากฉีดแล้วเกิดอาการดังต่อไปนี้ หมายความว่าคุณเจอโบท็อกปลอมแล้วอย่างแน่นอน

• ฉีดแล้วไม่ได้ผล หน้าไม่ตึง ตัวยาหมดฤทธิ์ ฉีดกรามแล้วไม่ลงดั่งใจ
• เกิดปัญหาหนังตาตกหรือปากเบี้ยวเนื่องจากตัวยากระจายไปโดนกล้ามเนื้อมัดอื่น เพราะโบท็อกปลอมก็คือสารเหลวชนิดหนึ่ง
• เสี่ยงต่อการแพ้เนื่องจากความไม่บริสุทธิ์ของตัวยา ซึ่งจะมีอาการเบาๆตั้งแต่ เป็นผื่นแดงคัน ไปจนถึงการอักเสบและติดเชื้อ
• ดื้อโบท็อก (ได้ผลในครั้งแรกๆ ครั้งต่อไปเริ่มไม่เห็นผล)
• ต้องฉีดโบท็อกบ่อยขึ้น
• หากเกิดอาการหรือโบท็อก ก็เตรียมตัวกับการรักษาที่ยากมากๆ ได้เลย เนื่องจากปัจจุบัน ยังไม่มีทางรักษาโดยตรง