เมโสหน้าใส ขอนแก่น คืออะไร

เมโสหน้าใส ช่วยเรื่องอะไร

เมโสหน้าใส ขอนแก่น เหมาะกับใคร

เมโสหน้าใส มีกี่ยี่ห้อ เลือกเมโสยี่ห้อไหนดี

เมโสหน้าใส ขอนแก่น ที่ไหนดี

สรุป

Juvelook มีลักษณะเป็น Spherical & Foamy Shape วงกลมขนาดไมโคร ที่มีรูอยู่โดยรอบ คล้ายกับฟองสบู่ ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และยังได้รับการจดสิทธิบัตรในสหรัฐอเมริกา ที่ช่วยในการเพิ่มความหนาแน่น ความกระชับเต่งตึงของผิวได้ดี ทั้งยังทำให้เมื่อเข้าไปในผิวแล้วไม่เป็นก้อน นอกจากนี้ Ha ยังมีความเหนียวแน่น เกาะตัวกันเป็นอย่างดี ทำให้เมื่อเติมเข้าสู่ผิวหนังแล้วจะไม่เคลื่อนตัวไปจากบริเวณที่เติม ทั้งยังไม่เหลือสิ่งตกค้างในร่างกาย มั่นใจในความปลอดภัย เพราะได้รับการรับรองด้วยมาตรฐานจากสหรัฐอเมริกาหรือ Fda และ Ce หรือ กฎระเบียบว่าด้วยความปลอดภัยในสหภาพยุโรป ทั้งยังได้รับการรับรองจาก จากอย. ประเทศไทย

ปัจจุบันเทรนการทำสวยทีได้รับความนิยมสูงคงจะหนีไม่พ้น เทรนด์คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวดูเด็ก ซึ่งปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์มากมาย ที่ถูกพัฒนามาเพื่อแก้ไขปัญหาสำหรับคนที่มาอายุ 30 ปีขึ้นไป เพื่อช่วยคงความอ่อนเยาว์ กระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวได้มากขึ้น เช่น Radiesse นวัตกรรมกระตุ้นคอลลาเจนตัวใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก สำหรับใครที่มีความสนใจและต้องการที่จะลองทำนั้น ก่อนที่จะเข้ารับการทำหัตถการ มาทำความรู้จักกับ Radiesse คืออะไร ? เจาะลึกนวัตกรรมคืนความอ่อนเยาว์ เติมวอลลุ่มให้ผิวดูเด็ก เพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนทำสวยที่ Wandee Clinic

Radiesse คืออะไร ?

RADIESSE® (เรเดียสซ์) เป็น the One of a Kind Regenerative Biostimulator ตัวช่วยฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์คนที่มีปัญหาคอลลาเจนสูญหาย ซึ่งตัว Radiesse นั้นมีส่วนประกอบหลัก คือ สาร CaHA (Calcium Hydroxylapatite microsphere) เป็นสารที่ถูกคิดค้น และมีการวิจัยโดยบริษัท Merz Aesthetics (บริษัท เมิร์ซ เอสเธติกส์) บริษัทความงามระดับโลก ที่ได้รับความไว้วางใจมากมาย

โดยจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ Radiesse คือ การฟื้นฟูผิวระดับลึก ถึงระดับโครงสร้าง หรือเรียกว่า Regenerative Biostimulator ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างตาข่ายคอลลาเจนทั้งหมด 5 ประเภท คือ Collagen Type I, Collagen Type III, Elastin,  Angiogenesis และ Proteoglycan ที่มีส่วนช่วยฟื้นฟูผิวให้สุขภาพดี ผิวกระชับ อิ่มฟู ทั้งยังช่วยลดเลือนริ้วรอย และยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้ดูเต่งตึง ทำให้หน้าดูเด็กลง

ผลลัพธ์หลังทำโปรแกรม Radiesse

การทำหัตถการ Radiesse จะฉีดยาเข้าไปที่บริเวณผิวระนาบ เมื่อตัวยาเข้าไปที่ผิวแล้วจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของ Fibroblasts (ไฟโบรบลาส) เซลล์ต้นกำเนิดคอลลาเจนในผิว ที่จะช่วยทำให้ผิวสร้างคอลลาเจนเพิ่มมากขึ้น

หลังเติมจะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ในช่วง 4-78 สัปดาห์ หลังจากนั้นอนุภาค CaHA จะค่อย ๆ ก่อตัวเป็นโครงสร้าง และช่วยกระตุ้นเซลล์ให้ผลิตคอลลาเจนออกมามากขึ้น กระตุ้นให้เกิดการสร้าง Elastin ในชั้นผิวสูงถึง 250%  ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว โดยจะเปลี่ยนเป็นโครงสร้าง หรือเส้นใยตาข่าย 3 มิติ (3D Matrix) ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับผิวชั้นลึก ทำให้ผิวดูอิ่มฟูขึ้นทันทีหลังฉีด ทั้งยังช่วยฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ช่วยทำให้ผิวยืดหยุ่นและคืนตัวได้ดี และชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคต หลังฉีดจะสามารถเห็นผลลัพธ์ทันที ใน 1 เดือนแรก หลังจากนั้นผิวจะเริ่มกระชับขึ้น มีความยืดหยุ่น ผิวแน่นฟู ร่องลึกต่าง ๆ ตื้นขึ้น ริ้วรอยจางลง และจะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ใน 3-6 เดือนคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 2 ปี

คุณสมบัติของ Radiesse ช่วยอะไรบ้าง ?

• ช่วยกระตุ้นการสร้าง Collagen Type I +150% ให้โครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้น ยกกระชับดูเต่งตึงมากขึ้น
• ช่วยกระตุ้นการสร้าง Collagen Type III +130% ฟื้นฟูถึงในระดับคอลลาเจนและอิลาสติน ให้จัดเรียงใหม่ ผิวดูกระชับ เต่งตึง พร้อมช่วยลดเลือนริ้วรอย
• ช่วยกระตุ้นการสร้าง Elastin +260% ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น เพิ่มวอลลุ่มให้ผิวดูสุขภาพดี
• ช่วยกระตุ้นการสร้างหลอดเลือดขนาดเล็ก ช่วยทำให้มีสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์ผิว (Angiogenesis)
• ช่วยกระตุ้นการสร้างน้ำหล่อเลี้ยงผิว ช่วยทำให้ผิวดูชุ่มชื้น อิ่มน้ำมากขึ้น (Proteoglycan) ทำให้ผิวสามารถยืดหยุ่น และคืนตัวได้ดี

การดูแลหลังทำ Radiesse

• อาการหลังทำที่พบได้ทั่วไป อาจจะมีอาการบวมเล็กน้อยบริเวณที่ทำการรักษา ซึ่งอาการจะหายไปเองใน 72 ชั่วโมง ไม่ควรสัมผัส แตะ เกา บริเวณที่บวม
• หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า หรือทาสกินแคร์บริเวณผิว 12 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการอักเสบ
• หลีกเลี่ยงการทำหัตถการที่มีความร้อนสูง เช่น เลเซอร์ หรือกิจกรรมที่มีความร้อน เช่น ซาวน่า อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังทำ
• หลังทำหากมีก้อนบริเวณใต้ผิวหนัง สามารถกดนวดบริเวณก้อน เพื่อลดอาการได้
• หลังทำอาจจะมีรอยช้ำ หรือผิวมีลักษณะแดงจากการทำหัตถการได้ แนะนําประคบเย็น หรือรับประทานยาที่ช่วยลดการช้ำได้
• แนะนำให้ประคบอุ่น หลังจากทำหัตถการผ่านไป 24 ชั่วโมง ตามคำแนะนําของแพทย์
• หากพบความผิดปกติอื่น ๆ หลังทำ Radiesse แนะนําให้กลับมาปรึกษาแพทย์

ข้อควรระวัง และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังทำโปรแกรม Radiesse

หลังจากทำหัตถการ Radiesse ผู้เข้ารับบริการสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก หลีกเลี่ยงการจับ เกา ถู หรือนวดหน้าแรง ๆ เพื่อป้องกันการอักเสบหรือการติดเชื้อจากรูเข็มหลังทำ หากมีอาการบวม รอยช้ำจากเข็ม หรือผิวมีลักษณะแดง แนะนำให้ประคบอุ่น หรือรับประทานยาเพื่อลดอาการช้ำ ซึ่งรอยช้ำหรืออาการบวมจะค่อย ๆ หายไปได้เองภายใน 1-3 วัน หรือหากมีผลข้างเคียงอื่น ๆ เช่น ผิวเปลี่ยนสี ผิวบริเวณที่ฉีดซีดลง ควรเข้ามาพบแพทย์ทันทีเพื่อวางแผนทำการรักษา

Q : หัตถการ Radiesse อยู่ได้นานไหม ?

A : หลายคนอาจจะมีข้อสงสัยว่าการทำหัตถการ Radiesse สามารถอยู่ได้นานแค่ไหน ? หลังทำ Radiesse จะสามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 2 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความถี่ของการรักษา ปัญหาและสภาพผิวของแต่ละบุคลคล รวมถึงการดูแลตัวเองเพื่อรักษาคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิวให้อยู่ได้นานขึ้น

Q : หากทำ Radiesse กี่วันเห็นผลลัพธ์ ?

A : หลังทำหัตถการ Radiesse จะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที ในช่วง 1 เดือนแรก ผิวจะเริ่มมีความกระชับ ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ผิวมีความแน่นอิ่มฟู เติมร่องริ้วรอยให้ตื้นขึ้น ในช่วง 3-6 เดือน จะเริ่มออกฤทธิ์กระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวดูยกกระชับ อิ่มน้ำ ใบหน้าดูมีมิติ เรียบเนียน และมีวอลลุ่มมากขึ้น ซึ่งจะเริ่มเห็นผลได้ชัดเจนขึ้น

Q : เติม Radiesse ต้องทำกี่ครั้ง ?

A : สำหรับใครที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานและถาวร แนะนำให้ทำโปรแกรม Radiesse ติดต่อกัน 1-3 ครั้ง ควรเว้นระยะห่าง 1 เดือน เพื่อผลลัพธ์ที่ดี ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหา เนื่องจากแต่ละบุคคลจะมีปัญหาผิวที่แตกต่างกัน และโปรแกรม Radiesse จะสามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลหลังทำ

Q : Radiesse 1 กล่อง มีกี่ CC ?

A : โปรแกรม Radiesse ตัวยาจะมาในรูปแบบของเจล (Pre-filled syringe) โดย 1 กล่องจะมี 1 ไซริงค์ หรือ 1.5 CC ภายในจะประกอบไปด้วยตัวยา ดังนี้

• แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ไมโครสเฟียร์ (CaHA) 30% ลักษณะทรงกลมขนาด 25-45 ไมครอน
• เจลคาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลส (CMC) 70%

ซึ่ง Radiesse จะมีอายุในการเก็บรักษา 2 ปี สามารถเก็บได้ที่อุณหภูมิ 15-25° C ไม่ต้องเก็บใส่ตู้เย็น

สรุป

Radiesse หัตถการดูแลผิวอย่างล้ำลึก ที่ช่วยดูแลผิวได้ถึงระดับโครงสร้าง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนมากถึง 5 ชนิด ให้ผิวดูเต่งตึงสุขภาพดี เติมเต็มร่องริ้วรอยให้ตื้นขึ้น ผิวดูมีมิติ คืนความอ่อนเยาว์ให้กลับมาดูเด็กอีกครั้ง สำหรับใครที่อยากลองทำหัตถการนี้ สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ที่ วันดี คลินิก ได้เลย

Wandee clinic  คลินิกความงามที่ได้มาตรฐาน ครบวงจร พร้อมมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีความยินดีที่จะให้บริการ และคอยให้คำปรึกษาแก่คุณลูกค้าทุกท่าน และแก้ปัญหาที่คุณต้องการ สามารถดู รีวิว Meso ของวันดีคลินิกเพิ่มเติมได้ หรือใครต้องการที่จะดู รีวิว คลินิก การทำหัถการอื่น ๆ สามารถเข้ามาดูได้

Meso หน้าใส, ฉีดเมโสหน้าใส, ฉีดเมโสหน้าใสที่ไหนดี, รีวิวเมโสหน้าใส, เมโสหน้าใสที่ไหนดี

สามารถสอบถามเพิ่มเติมที่:

เว็บไซต์ : www.wandeeclinic.com

LINE ID : @wandeeclinic

วันดีคลินิก สาขาใกล้บ้านคุณ

สาขาขอนแก่น ตึกคอม

344/17 ซอยรื่นรมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง ขอนแก่น 40000

สาขาขอนแก่น หอกาญ

193 70-71 ถ. กัลปพฤกษ์ ในเมือง เมือง ขอนแก่น 40000

สาขาอุดรธานี

75/20-21 ถนนทหาร ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง เทศบาลนครอุดรธานี 41000

สาขาเดอะสตรีท รัชดา

139 ศูนย์การค้า เดอะ สตรีท รัชดา ห้องเลขที่ 365 ชั้น 3 ร้าน Wandee clinic ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขต ดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400

สาขาพัทยา ชลบุรี

หมู่ที่ 12 315/300-301 อำเภอบางละมุง ชลบุรี 20150

สาขาโคราช

1119/8 ถ. สุรนารายณ์ ตำบล บ้านเกาะ นครราชสีมา

ต้องบอกเลยว่าเทรนด์หน้าใส หน้าฉ่ำโกลว์ หน้าดูเด็ก กำลังมาแรงอย่างมากในปัจจุบัน ผิวหน้าที่ดูสุขภาพดีจะช่วยเสริมบุคลิกให้เรามีความมั่นใจได้มากยิ่งขึ้น สาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ ที่กำลังมีปัญหาผิวหน้าที่ดูแห้งกร้าน หย่อนคล้อย หน้าดูโทรมและดูมีอายุ วันนี้ทาง วันดี คลินิก ของเราจะพามาทำความรู้จักกับ sculptra vs filler ตัวช่วยงานผิว ต่างกันอย่างไร เลือกตัวไหนดี ? ที่เหมาะสำหรับเรา

Sculptra ทำงานอย่างไร ?

สาว ๆ วัย 30 อัพคนไหนที่อยากจะเติมความชุ่มชื้น และคงความอ่อนเยาว์ให้กับผิว อีกหนึ่งหัตถการมาแรงที่สามารถคงผลลัพธ์หน้าเด็กได้ถึง 2 ปี คือ Sculptra เรียกว่าเป็นสกินบูสเตอร์กำลังโด่งดังและได้รับความสนใจอย่างมาก โดย Sculptra จะช่วยเข้าไปดูแล ฟื้นฟูผิวได้อย่างล้ำลึก เพื่อเติมเต็มช่องว่าง หรือริ้วรอยบนผิว และสาร PLLA จะค่อย ๆ ถูกดูดซึม และมีการเปลี่ยนแปลงเป็น Lactic acid ทำงานกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยจากผลการวิจัย Sculptra สามารถกระตุ้นการสร้าง Collagen type1 ได้สูงถึง 66.5% หลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือน ทั้งยังช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว Macrophage ในการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ตั้งแต่หลังฉีดวันที่ 5 จากนั้นจะช่วยทำให้ร่างกายสามารถผลิตคอลลาเจนเองได้ และช่วยคงความอ่อนเยาว์ได้มากขึ้น

จุดเด่นของ Sculptra

• Sculptra ช่วยกระตุ้นการสร้าง Collagen Type 1 ได้สูงถึง 5% ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว ฟื้นฟูผิวได้อย่างล้ำลึก ทั้งยังช่วยปรับสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์ลง
• Sculptra เป็นสารสกัดจาก Collagen Biostimulator ตัวแรก และตัวเดียวของโลกที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก US-FDA และผ่านการรับรองมาตรฐาน อย. ประเทศไทย ทำให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัย ไม่มีสารอันตรายตกค้างในร่างกาย
• หลังฉีด Sculptra จะค่อย ๆ เริ่มเห็นผลลัพธ์ในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกหลังฉีด และช่วยฟื้นฟูผิวได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 25 เดือน
• Sculptra เป็นสารสังเคราะห์จากพืช ทำให้ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ และเกิดผลข้างเคียง

Sculptra เหมาะกับใคร ?

• ผู้มีมีอายุ 30 ปีขึ้นไป
• ผู้ที่มีริ้วรอยร่องลึก รูขุมขนกว้าง ไม่เรียบเนียน
• ผู้ที่มีผิวขาดความยืดหยุ่น ผิวไม่กระชับ มีผิวที่หย่อนคล้อย
• ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน ต้องการเติมความชุ่มชื้นให้ผิว และต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
• ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงอย่างล้ำลึก
• ผู้ที่ต้องการคงความอ่อนเยาว์ให้ผิว
• ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนาน เนื่องจาก Sculptra สามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี

จุดเด่นของฟิลเลอร์

• ฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็มกรดไฮยาลูรอนิก ที่มีความปลอดภัย ไม่ทำให้เกิดการแพ้ ทั้งยังสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ และผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย จากทั้ง US-FDA, EU และมาตรฐาน อย. ประเทศไทย
• การฉีดฟิลเลอร์สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังฉีดถึง 70-80% และสามารถเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้นในช่วง 2-3 สัปดาห์หลังฉีด
• ฟิลเลอร์สามารถช่วยเติมเต็มร่องลึก หรือช่วยเติมเต็มในส่วนที่คอลลาเจนของผิวหายไปได้ ทำให้ใบหน้าดูมีมิติ และอิ่มฟู นอกจากนี้ยังช่วยปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนได้
• ฟิลเลอร์ส่วนมากสามารถอยู่ได้นานถึง 16-24 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อ และการฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละส่วน

filler เหมาะกับใคร

• ผู้ที่มีผิวแห้งดูหยาบกร้าน
• ผู้ที่มีผิวขาดความยืดหยุ่น ผิวไม่กระชับเรียบเนียน
• ผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน มีริ้วรอยร่องตื้น และมีหลุมสิว
• ผู้ที่ต้องการปรับสภาพผิวให้มีความชุ่มชื้น ต้องการผิวดูโกลว์ ฉ่ำวาว แบบผิวกระจก
• ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหน้าแบบเร่งด่วน

ฟิลเลอร์งานผิว แตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไปไหม

สาว ๆ หลายคนอาจจะมีคำถามเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ว่าระหว่าง ฟิลเลอร์งานผิว กับฟิลเลอร์ทั่วไปต่างกันไหม ? ฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็มที่จะช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างหลากหลาย ในปัจจุบันมีการพัฒนานำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในฟิลเลอร์ ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความหลากหลายมาหขึ้น ทั้งยังตอบโจทย์ปัญหาผิวได้อย่างครอบคลุม เช่น ฟิลเลอร์งานผิว ที่กำลังโด่งดัง เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อบางเบา เหมาะสำหรับเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว บำรุงผิว และช่วยปรับสภาพผิวให้แข็งแรง ผลิตมาเพื่อฉีดบริเวณผิวหน้า เพื่อปรับสภาพผิว ให้ผิวดูอิ่มฟูฉ่ำวาว เหมือนผิวกระจก ลดเลือนริ้วรอย ซึ่งจะแตกต่างกับฟิลเลอร์ทั่วไปที่ช่วยเติมเต็มร่องลึก ปรับโครงหน้า เพิ่มมิติให้กับใบหน้าให้สมส่วนมากขึ้น โดยส่วนมากจะมีเนื้อที่แน่น มีความยืดหยุ่น สามารถคงรูปได้ดี นิยมฉีดบริเวณ หน้าแก้ม ร่องแก้ม ใต้ตา ขมับ ปาก และคาง เป็นต้น

Sculptra vs filler เลือกตัวไหนดี?

คำถามที่หลาย ๆ คนอาจจะสงสัย ถ้าหาก Sculptra และ filler มีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกัน ดังนั้นระหว่าง Sculptra vs filler ควรเลือกฉีดตัวไหนดี?

• Sculptra เป็นหนึ่งในสกินบูสเตอร์ที่เหมาะสำหรับการดูแลฟื้นฟูผิวหน้าอย่างล้ำลึก และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอิลาสตินใต้ผิวหนังได้อย่างยั่งยืน ทำให้ปรับโครงสร้างผิวให้แข็งแรง ช่วยบำรุงผิวให้ดูชุ่มชื้น อิ่มฟู ริ้วรอยดูจางลง ปรับผิวให้แลดูกระจ่างใส และใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไปที่มีปัญหาริ้วรอย หน้าดูแห้งกร้าน หย่อนคล้อย
• Filler เป็นสารเติมเต็มที่ฉีดเพื่อทดแทนการสลายไปของคอลลาเจน ช่วยปรับรูปหน้า เติมเต็มเฉพาะจุด และเพิ่มมิติให้กับใบหน้า และช่วยฟื้นฟูผิวให้ดูอิ่มฟู ฉ่ำวาว ดูกระจ่างใส ให้ผิวโกลว์สวย จึงเหมาะสำหรับคนที่มีปัญผิวหน้าแห้ง ไม่กระจ่างใส อยากเติมความชุ่มชื้นให้ผิวดูฉ่ำวาว ผิวกระจก

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการประเมินสภาพผิวของแพทย์ และความต้องการของคนไข้ว่าต้องการเลือกรักษาด้วยหัตถการใด

สรุป

Sculptra vs filler ถือเป็นตัวเลือกที่จะช่วยตอบโจทย์ปัญหาผิวสำหรับสาว ๆ ที่อยากจะฟื้นฟูผิวหน้าให้แข็งแรง เติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ่มฟู ฉ่ำวาว แลดูกระจ่างใส สุขภาพดี แต่อย่างไรก็ตาม Sculptra กับ filler ก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน สำหรับใครที่อยากจะฟื้นูผิว สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหาผิวว่าควรรักษาด้วยหัตถการแบบไหน ได้ที่ วันดี คลินิก ทุกสาขา

Wandee clinic  คลินิกความงามที่ได้มาตรฐาน ครบวงจร พร้อมมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีความยินดีที่จะให้บริการ และคอยให้คำปรึกษาแก่คุณลูกค้าทุกท่าน และแก้ปัญหาที่คุณต้องการไม่ว่าจะเป็น รีวิว คลินิก , Fillerคาง ,ฟิลเลอร์ ,ฉีดฟิลเลอร์ ,ฟิลเลอร์คาง ,รีวิวฉีดปาก ,รีวิวฉีดปากวันดีคลินิก ,โปรโมชั่นคลินิก,คลินิกขอนแก่น ,คลินิกศัลยกรรมที่ไหนดี ,คลินิกเสริมความงาม, คลินิกความงาม, เมโสแฟต , รีวิว Meso , Meso หน้าใส, ฉีดเมโสหน้าใส, ฉีดเมโสหน้าใสที่ไหนดี, รีวิวเมโสหน้าใส, เมโสหน้าใสที่ไหนดี อย่างเป็นกันเองค่ะ

สามารถสอบถามเพิ่มเติมที่:

เว็บไซต์ : www.wandeeclinic.com

LINE ID : @wandeeclinic

วันดีคลินิก สาขาใกล้บ้านคุณ

สาขาขอนแก่น ตึกคอม

344/17 ซอยรื่นรมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง ขอนแก่น 40000

สาขาขอนแก่น หอกาญ

193 70-71 ถ. กัลปพฤกษ์ ในเมือง เมือง ขอนแก่น 40000

สาขาอุดรธานี

75/20-21 ถนนทหาร ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง เทศบาลนครอุดรธานี 41000

สาขาเดอะสตรีท รัชดา

139 ศูนย์การค้า เดอะ สตรีท รัชดา ห้องเลขที่ 365 ชั้น 3 ร้าน Wandee clinic ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขต ดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400

สาขาพัทยา ชลบุรี

หมู่ที่ 12 315/300-301 อำเภอบางละมุง ชลบุรี 20150

สาขาโคราช

1119/8 ถ. สุรนารายณ์ ตำบล บ้านเกาะ นครราชสีมา

อยากหน้าเล็กลง ต้องทำอย่างไร? สาว ๆ ที่กำลังมองหาทางลัด หน้าเรียวเล็ก แก้ม เหนียงลดหายได้ไว ให้ทันวันสำคัญ อีกหนึ่งตัวช่วยที่คงจะรู้จักกันเป็นอย่างดี คือ  เมโสแฟต ซึ่งในปัจจุบันก็มีเมโสแฟตหลากหลายยี่ห้อให้ได้เลือก วันนี้ทาง Wandee Clinic ของเราจะมาทำความรู้จักกับ เจาะลึก Miracle B ดีจริงไหม? เมโสแฟต ราคาไม่แรง ลดแก้ม ลดไขมันแบบจัดเต็ม เมโสแฟตยอดฮิตที่จะช่วยสลายไขมันได้อย่างรวดเร็ว

เมโสแฟต คืออะไร ?

ปัญหาไขมันสะสม ลดยาก หรือมีปัญหาเกี่ยวกับสัดส่วนลดยาก โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า หรือต้นแขน ต้นขา การทำหัตถการสามารถช่วยได้ นอกจากการดูดไขมันแล้ว การฉีดเมโสแฟต ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถช่วยได้ ซึ่ง Meso Fat หรือ Meso Lipolysis คือ สารสกัดจากธรรมชาติที่มีส่วนช่วยในเร่งกระบวนการสลาย เช่น Lacitin สารสกัดจากถั่วเหลือง ที่มีส่วนช่วยเร่งการสลายไขมันให้แตกตัว เปลี่ยนไขมันให้กลายเป็นไขมันดี และช่วยขับออกมาเป็นของเสียผ่านทางเหงื่อ ปัสสาวะ และอุจจาระ นอกจากนี้ในเมโสแฟตบางยี่ห้อยังมีส่วนประกอบของสารที่สามารถช่วยกระชับผิว ลดความหย่อนคล้อย ให้ผิวดูเต่งตึง ลดการเกิดเซลลูไลท์ และลดอาการบวม ช่วยให้ผิวดูกระชับได้สัดส่วน

สำหรับการฉีดเมโสแฟตเป็นการฉีดเพื่อสลายไขมันสะสมเฉพาะจุดแบบเร่งด่วน สามารถฉีดได้หลากหลายจุด นิยมฉีดบริเวณที่มีไขมันสะสม สัดส่วนมีขนาดใหญ่  เช่น เมโสแฟตลดแก้ม ลดเหนียง ลดต้นแขน ต้นขา หรือหน้าท้อง เพื่อสลายไขมัน และช่วยกระชับสัดส่วน ลดการเกิดเซลลูไลท์ อย่างไรก็ตามเมโสแฟตนั้นเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ จึงอาจจะทำให้ตัวยามีความสลายไปได้เร็ว และไม่สามารถช่วยลดน้ำหนักได้ หากต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ควรดูแลตัวเองหลังฉีด เช่น การควบคุมอาหาร หรือออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพที่แข็งแรง และมีสัดส่วนที่สวยงาม

เมโสแฟตฉีดตรงไหนได้บ้าง

• ลดเหนียง ใครที่มีปัญหาไขมันสะสมบริเวณเหนียง หรือคาง 2 ชั้น ซึ่งเป็นส่วนที่ลดได้ยาก การฉีดเมโสแฟตเป็นอีกหนึ่งทางเลือกยอดฮิตที่หลายคนนิยมทำ ซึ่งเหนียงเป็นการสะสมของไขมันบริเวณใต้คาง ทำให้ใบหน้าดูกลม กรอบหน้าดูไม่ชัด หากต้องการสลายไขมันบริเวณเหนียง และทำให้กรอบหน้าดูชัดลง แนะนำให้ฉีดเมโสแฟต และลิฟกรอบหน้า เพื่อยกกระชับผิวและเพิ่มความคมชัดมากขึ้น
• ลดแก้ม สาว ๆ ที่มีปัญหาตัวเล็กมา แต่มีแก้มที่เยอะ ทำให้ใบหน้าดูกลม และดูอ้วน การฉีดเมโสแฟตสามารถช่วยสลายไขมันบริเวณกระเปาะแก้มได้ การฉีดเมโสแฟตลดแก้ม จะช่วยทำให้หน้าดูเรียวขึ้น ทั้งนี้หากฉีดร่วมกับโบท็อกซ์เพื่อลดกล้ามเนื้อกราม จะช่วยทำให้กรามดูลดลง ใบหน้าดูเรียว และเข้ารูปมากขึ้น

ฉีดเมโสแฟตอยู่ได้นานกี่เดือน

เมโสแฟตสามารถอยู่ได้นานถึง 2-3 เดือน หากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและสม่ำเสมอ แนะนำให้ฉีดเมโสแฟตอย่างสม่ำเสมอในช่วงแรก และควรดูแลตัวเองหลังทำ โดยการปรับพฤติกรรมการทานอาหารงดของมัน ของทอด ของหวาน และหมั่นออกกำลังกายเพื่อช่วยให้ตัวยาเมโสแฟตทำงานได้ดี และเร่งการเผาผลาญได้มากขึ้น

เมโสแฟต Miracle B ดีจริงไหม ช่วยเรื่องอะไร

MesoFat เป็นหัตถการที่ช่วยสลายไขมันเฉพาะจุด สามารถช่วยลดไขมันสะสมที่ลดยากได้ ทั้งยังสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน สลายไขมันได้ทันทีตั้งแต่ฉีดครั้งแรกถึง 10-20% ทั้งยังช่วยยกกระชับผิว กรอบหน้าให้ได้สัดส่วน ไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดอาการย้วย หลังฉีด 1-2 สัปดาห์ผิวจะเริ่มกระชับ และกรอบหน้าจะเริ่มชัดขึ้น หน้าดูเรียว และวีเชฟมากขึ้น

เมโสแฟต Miracle B  ราคาเท่าไหร่ ?

Miracle B เมโสแฟตสุดพรีเมี่ยม โดยส่วนมากจะนิยมขายแบบเหมาขวด เพื่อประสิทธิภาพที่ และผลลัพธ์ที่ดี โดยราคาของวันดี คลินิก จะเริ่มที่ 1,990 บาท / 1 ขวด มีปริมาณ 10 cc โดยการฉีดเมโสแฟตแต่ละจุดจะฉีดมากกว่า 1 cc

สรุป

เจาะลึก Miracle B ดีจริงไหม? เมโสแฟต ราคาไม่แรง ลดแก้ม ลดไขมันแบบจัดเต็ม เมโสแฟตสุดพรีเมียม ตัวช่วยลดแก้ม เหนียง สลายไขมันยได้แบบทันใจ ไม่แสบ ไม่บวม เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อได้รับความนิยมสูง สาว ๆ หรือหนุ่ม ๆที่อยากจะหาทางลัดหน้าเรียว ลดไขมันได้แบบเร่งด่วน สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ได้ และเข้ามารับบริการ Miracle B ได้ที่ วันดี คลินิก ทุกสาขา

Wandee clinic  คลินิกความงามที่ได้มาตรฐาน ครบวงจร พร้อมมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีความยินดีที่จะให้บริการ และคอยให้คำปรึกษาแก่คุณลูกค้าทุกท่าน และแก้ปัญหาที่คุณต้องการไม่ว่าจะเป็น Fillerคาง ,ฟิลเลอร์ ,ฉีดฟิลเลอร์ ,ฟิลเลอร์คาง ,รีวิวฉีดปาก ,รีวิวฉีดปากวันดีคลินิก ,โปรโมชั่นคลินิก,คลินิกขอนแก่น ,คลินิกศัลยกรรมที่ไหนดี ,คลินิกเสริมความงาม, คลินิกความงาม, เมโสแฟต อย่างเป็นกันเองค่ะ

สามารถสอบถามเพิ่มเติมที่:
เว็บไซต์ : www.wandeeclinic.com

LINE ID : @wandeeclinic

วันดีคลินิก สาขาใกล้บ้านคุณ

สาขาขอนแก่น ตึกคอม

344/17 ซอยรื่นรมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง ขอนแก่น 40000

สาขาขอนแก่น หอกาญ

193 70-71 ถ. กัลปพฤกษ์ ในเมือง เมือง ขอนแก่น 40000

สาขาอุดรธานี

75/20-21 ถนนทหาร ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง เทศบาลนครอุดรธานี 41000

สาขาเดอะสตรีท รัชดา

139 ศูนย์การค้า เดอะ สตรีท รัชดา ห้องเลขที่ 365 ชั้น 3 ร้าน Wandee clinic ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขต ดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400

สาขาพัทยา ชลบุรี

หมู่ที่ 12 315/300-301 อำเภอบางละมุง ชลบุรี 20150

สาขาโคราช

1119/8 ถ. สุรนารายณ์ ตำบล บ้านเกาะ นครราชสีมา

อยากหน้าเล็ก หน้าเรียว เหนียงหาย ต้องทำไง? สาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ ที่กำลังประสบปัญหาหน้าบาน แก้มเยอะ มีเหนียง ลดยาก เมโสแฟต อาจจะเป็นอีกหนึ่งทางลัดที่จะช่วยสลายไขมัน พร้อมยกกระชับผิว ปรับกรอบหน้าให้ชัดขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ได้ มาทำความรู้จักกับ BABI Lone Fat ดีไหม ? ไขความลับเมโสแฟตลดเหนียง แก้มได้จริง หรือจกตา ? ที่ทาง วันดี คลินิก ได้นำมาฝาก

เมโสแฟต (Meso Fat) คืออะไร ? ดีจริงไหม ?

MesoFat เมโสแฟต คืออะไร หัตถการยอดฮิตที่เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาไขมันเฉพาะจุด การฉีดเมโสแฟตสามารถช่วยลดไขมันสะสมได้เป็นอย่างดี และยังสามารถสลายไขมันหลังฉีดทันทีได้ถึง 10-20% ช่วยยกกระชับผิวให้ได้ หลังฉีด 1-2 สัปดาห์สัดส่วนจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยหลักการทำงานของเมโสแฟต จะฉีดตัวยาเข้าบริเวณชั้นไขมัน ตัวยาจะช่วยสลายไขมันสะสมเฉพาะจุด ทำให้บริเวณที่ฉีดมีขนาดเล็กลง และจะขับไขมันส่วนเกินออกในรูปแบบของเสียทางร่างกาย

ทำไมต้องฉีด BABILONE FAT 

BABILONE FAT เป็นเมโสแฟตที่รวมสารสกัดธรรมชาติสุดพรีเมี่ยมจากเกาหลี ช่วยสลายไขมันสะสมที่ลดยากได้เป็นอย่างดี มาพร้อมคุณสมบัติที่ไม่ปวด ไม่แสบ ช่วยเบิร์นไขมันให้สลายได้ไว ทำให้สัดส่วนดูลดลงหลังฉีดทันทีถึง 20% เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดไขมันเฉาพะจุด เช่น บริเวณใบหน้า แก้ม เหนียง กรอบหน้า รวมถึงบริเวณลำตัว เช่น ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง นอจากจะช่วยลดไขมันยังช่วยลดการเกิดเซลลูไลท์ และช่วยยกกระชับผิวให้เต่งตึงขึ้น BABILONE FAT เป็นเมโสแฟตที่ได้รับการขึ้นทะเบียนผ่านอย. ไทย ทำให้มั่นใจได้เลยว่าปลอดภัยแน่นอน

BABILONE FAT เหมาะกับใคร

• เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันส่วนเกินในจุดต่าง ๆ
• เหมาะสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายแล้วสัดส่วนต่าง ๆ ไม่ลด
• เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันส่วนเกินสะสมเฉพาะจุด เช่น บริเวณ แก้ม เหนียง กรอบหน้า ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง
• เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมอยู่ในบริเวณที่ลดยาก
• เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันแบบเร่งด่วน ทันใจ
• เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด หรือดูดไขมัน ในราคาสูง
• เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้น และมีความกังวลเรื่องความเจ็บปวด

ฉีดเมโสแฟตกี่วันเห็นผล ฉีดแล้วบวมไหม ?

หลังฉีดเมโสแฟตสามารถเห็นผลได้เลยทันทีหลังฉีด โดยจะเริ่มเห็นผลชัดเจนประมาณ 1 สัปดาห์ แต่ผลลัพธ์ของของการรักษานั้นนจะขึ้นอยู่กับปริมาณไขมัน และปริมาณของตัวยาที่ฉีดเข้าไป หากถามว่าต้องฉีดบ่อยแค่ไหน ? ถึงจะเห็นผลที่ชัดเจน และคงผลลัพธ์ได้ยาวนาน ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับปัญหา ปริมาณไขมันของแต่ละบุคคล ซึ่งควรเข้ามาให้แพทย์ประเมินก่อนฉีด เพื่อวางแผนการรักษา โดยผลลัพธ์ของการฉีดเมโสแฟตสามารถอยู่ได้นานถึง 2-3 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดด้วย

หลังฉีดเมโสแฟต ต้องดูแลตัวเองอย่างไร ?

• ไม่ควรกดหรือนวดในบริเวณที่ฉีด ควรปล่อยให้ตัวยาซึมลงไปเอง เพราะอาจจะทำให้อักเสบได้
• ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย วันละ 2 ลิตร เพื่อช่วยให้ไขมันขับออกมาทางของเสีย
• หลังฉีดเมโสแฟต ไม่แนะนำให้นวดหน้า อบซาวน่า หรือเลเซอร์ผิวหน้า 1สัปดาห์
• หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเมโสแฟต
• ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร ลดการทานไขมัน น้ำตาล หรืออาหารรสจัด เพื่อลดการกลับมาของไขมันใหม่

เมโสแฟต (Meso Fat) ฉีดจุดไหนได้บ้าง

MesoFat สามารถช่วยสลายไขมันสะสมได้ทุกบริเวณทั่วร่างกาย โดยนิยมฉีดในส่วน

• ใบหน้า ลดแก้ม เหนียง และช่วยกระชับกรอบหน้าให้ยกขึ้น ทั้งยังช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
• ต้นแขน ท้องแขน ไขมันข้างรักแร้ ช่วยกระชับสัดส่วนให้แขนเรียว พร้อมลดการเกิดเซลลูไลท์
• หน้าท้อง ช่วยลดไขมันหน้าท้อง กระชับผิวที่หย่อนคล้อย ให้เอวคอดดูเพรียว
• ต้นขา น่อง ช่วยสลายไขมันสะสม ลดการเกิดเซลลูไลท์ ให้ขาดูกระชับขึ้น

หลังฉีดเมโสแฟต อาจจะเกิดผลข้างเคียงอะไรบ้าง ?

ใครที่กำลังกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงหลังการฉีดเมโสแฟต แม้ว่าการฉีดเมโสแฟตจะมีความแลอดภัย แต่ในบางคนอาจจะเกิดผลข้างเคียงเล็กน้อย หรืออาการแพ้ที่ไม่รุนแรงได้ ซึ่งผลข้างเคียงที่มักเกิดขึ้นได้ มีดังนี้

• อาการแพ้ผื่น คัน บริเวณที่ฉีด
• บริเวณที่ฉีดมีสีผิวที่เปลี่ยนไป
• รอยฟกช้ำ หรืออาการบวมหลังฉีด
• แผลบริเวณที่ฉีด

ในการเข้ารับการรักษาจึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องแจ้งแพทย์ผู้ฉีด เกี่ยวกับโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา เพื่อวางแผนการรักษาก่อนทำหัตถการ ทั้งนี้ควรเลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน สะอาด มีความปลอดภัย และมีแพทย์ผู้ชำนาญการมีประสบการณ์ดูแล สำหรับใครที่พบผลข้างเคียงที่รุนแรง สามารถเข้าไปปรึกษากับแพทย์ได้

สรุป

BABI Lone Fat ดีไหม ? ไขความลับเมโสแฟตลดเหนียง แก้มได้จริง หรือจกตา ? เมโสแฟตสัญชาติเกาหลีสุดพรีเมี่ยม ที่ช่วยสลายไขมันสะสม พร้อมยกกระชับผิว สำหรับใครที่อยากจะลดไขมันสะสมเฉพาะส่วน เช่น แก้ม เหนียง ต้นแขน ต้นขา หรือเป็นคนที่ลดน้ำหนักยาก อยากลดเฉพาะส่วน เมโสแฟตถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ ที่จะมาตอบโจทย์สาว ๆ  สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ได้ที่ วันดีคลินิก ทุกสาขา

Wandee clinic  คลินิกความงามที่ได้มาตรฐาน ครบวงจร พร้อมมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีความยินดีที่จะให้บริการ และคอยให้คำปรึกษาแก่คุณลูกค้าทุกท่าน และแก้ปัญหาที่คุณต้องการไม่ว่าจะเป็น Fillerคาง ,ฟิลเลอร์ ,ฉีดฟิลเลอร์ ,ฟิลเลอร์คาง ,รีวิวฉีดปาก ,รีวิวฉีดปากวันดีคลินิก ,โปรโมชั่นคลินิก,คลินิกขอนแก่น ,คลินิกศัลยกรรมที่ไหนดี ,คลินิกเสริมความงาม, คลินิกความงาม, เมโสแฟต อย่างเป็นกันเองค่ะ

สามารถสอบถามเพิ่มเติมที่:
เว็บไซต์ : www.wandeeclinic.com

อยากลดแก้ม ลดเหนียง ลดไขมัน ต้องทำยังไง ? ทางลัดหุ่นสวยที่สาว ๆ หลายคนต่างนิยมอย่าง เมโสแฟต วันนี้ทางวันดีคลินิกของเรา จะมาแนะนำ ฉีดเมโสแฟต ยี่ห้อไหนดี ? รวมยี่ห้อเมโสแฟตที่ดีที่สุด ที่ผ่านอย.ไทย 2566 ที่ปลอดภัย และเห็นผลจริง

Diamond Fat เมโสแฟตเกาหลีสุดพรีเมี่ยม ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมอาหารและยา KFDA, GMP และ อย.ไทย รวมสารสกัดธรรมชาติที่มีส่วนช่วยสลายไขมันสะสมเฉพาะจุด และช่วยกระชับผิวหน้า กรอบหน้าให้ชัดขึ้น ปรับรูปหน้าให้ดูมีมิติ ช่วยสลายไขมันบริเวณแก้ม, เหนียง, ต้นแขน, ต้นขาและหน้าท้อง ลดการเกิดเซลลูไลท์

ส่วนประกอบเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ

1. Betula Alba Leaf Extract มีส่วนช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญกำจัดไขมัน และช่วยชับของเสียออกจากร่างกาย
2. Aesculus Hippocastanum กระตุ้นการไหลเวียนภายในเส้นเลือด ขับของเสีย ช่วยลดอาการบวมน้ำ และต้านการอักเสบของผิว
3. Argireline ยกกระชับผิวให้เต่งตึง ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว เหมือนคุณสมบัติของ Botulinum toxin type A หรือโบท็อกซ์
4. Ophiopogon Japonicas Foot Extract ช่วยเสริมสร้างผิวให้แข็งแรงมากขึ้น ปกป้องผิวให้แข็งแรง
5. Junians Regia สารสกัดอุดมไปด้วยวิตามินอี และแร่ธาตุ ที่ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น
6. Amino Acid มีกรดอะมิโน 13 ชนิด ที่จำเป็นต่อร่างกาย มีส่วนช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญในร่างกาย เร่งการสลายไขมันต่อเนื่องยาวนานถึง 2 สัปดาห์
7. Carnitine ช่วยสลายกรดไขมันในร่างกาย โดยนำไขมันไปใช้เป็นพลังงาน เปลี่ยนมวลไขมันให้เป็นกล้ามเนื้อ กระชับ และแข็งแรงขึ้น

สาว ๆ ที่อยากจะปรับรูปหน้าให้กระชับ และมีปัญหาเหนียง เมโสแฟต Korea Fat Premium เมโสแฟตสัญชาติเกาหลี ที่เป็นสูตรเฉพาะของทางวันดี คลินิก ช่วยสลายไขมันส่วนเกิน ฉีดแล้วหน้าลงไว บวมช้ำน้อยมาก เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ลูกค้าไว้ใจ

เมโสแฟตเป็นการสลายไขมัน และลดเซลล์ลูไลท์เฉพาะจุด นอกจากนี้ยังช่วยกระชับสัดส่วนได้ตามต้องการ ตัวยาแฟตจะเข้าไปสลายไขมัน ทำให้ไขมันแตกตัว และขับออกมาเป็นของเสีย โดยจะมีส่วนผสมจากธรรมชาติ รวมทั้งกรดอะมิโนจำเป็นกว่า 17 ชนิด และสารสำคัญ ๆ ที่ออกฤทธิ์ คือ

• Artichoke extract (Cynara scolymus) ทำหน้าที่กระตุ้นการสังเคราะห์ coenzyme ในกระบวนการ anabolism ช่วยลดการเกิดไขมันใหม่ ๆ และช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ ทำให้สัดส่วนลดลง
• Mesostabyl (Polyunsaturated phosphatidylcholine) ทำหน้าที่กระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ lipase ช่วยลดการสร้าง triglyceride ยับยั้งการสร้างคอลเลสตอรอล ช่วยลดการเกิดไขมันใหม่
• L-carnitine เร่งการเผาผลาญ (fat burn) และช่วยดึงไขมันมาเปลี่ยนเป็นพลังงาน ทำให้สลายไขมันเก่าได้

ฉีดเมโสแฟต ยี่ห้อไหนดี ?  Babi lone เมโสแฟตสัญชาติเกาหลี ที่มาพร้อมสารสกัดธรรมชาติที่โดดเด่น และรวม Peptide หลายชนิด ที่นำเข้าจาก USA ทำให้มั่นใจได้ว่ามีคุณภาพ และมีความปลอดภัยสูง ซึ่งเมโสแฟต Babi lone ได้ผ่านการทดสอบแล้วว่าสามารถช่วยลดการสะสมของไขมันเฉพาะจุดได้ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใบหน้าและร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยยกกระชับผิว ลดการระคายเคืองผิว นอกจากนี้ยังไม่มีส่วนผสมของฟอสฟาซิดิวโคลีน และคาเฟอีน ที่อาจก่อให้เกิดการแพ้ได้

โดยสารสกัดหลัก ๆ ที่ทำหน้าที่ในการออกฤทธิ์ลดไขมัน จะมีดังนี้

1. Centella Asiatica Extract ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวดูแข็งแรง และฟื้นฟูสภาพผิวได้อย่างล้ำลึก
2. Chamomilla Recutita Flower Extract ลดการอักเสบของเซลล์ และเพิ่มการไหลเวียนเลือดให้ดีขึ้น
3. Salvia Miltiorrhiza root Extract ช่วยลดการอักเสบ ยับยั้งการสังเคราะห์คอเลสเตอรอล

สำหรับสาว ๆ ที่อยากจะลดไขมันเฉพาะจุด เมโสแฟต Sisi เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อยอดนิยม ที่ผ่านอย. ไทย และนำเข้าจากประเทศเกาหลี โดยจุดเด่นของเมโสแฟตนี้ จะช่วยสลายไขมัน ทั้งยังช่วยยกกระชับผิว ช่วยปรับผิวให้สว่างกระจ่างใส เป็นเมโสที่แสบน้อย บวมน้อย ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะเจ็บ ทั้งนี้มีทั้งหมด 2 สูตร คือ สำหรับใบหน้า และลำตัว

Sisi มีสารสกัดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพืชมากกว่า 12 ชนิด และ

• Anti-Oxidant ที่จะช่วยปรับผิวให้สว่างกระจ่างใส หลังฉีด 7-10 วัน
• L-Carnitine ช่วยเพิ่มการเผาผลาญของไขมัน คนที่แพ้อาหารทะเลสามารถฉีดได้
• Disodium Adenosine Phosphate ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
• Vitamin B12 ช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น
• Anemone Pulsatilla หรือดอกไม้ทะเล ช่วยลดอาการปวด แสบ หรือบวมน้อย

จุดเด่นของเมโสแฟต Sisi คือ ไม่ปวด ไม่บวม มาแสบ ทั้งยังไม่มีส่วนประกอบของ Caffeine จึงไม่ทำให้ใจสั่น และคนที่แพ้กาแฟสามารถใช้ได้ ดูดซึมไว ไม่เป็นก้อน สามารถเห็นผลได้ไวภายใน 7-10 วัน

Miracle B อีกหนึ่งเมโสแฟตตัวดังจากเกาหลี ที่ได้รับความนิยมสูง มีส่วนช่วยสลายไขมันเฉพาะจุดอันรวดเร็ว แต่ไม่ทำลายคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ช่วยกระชับผิวให้เข้ารูปมากขึ้น ลดเซลลูไลท์ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดการอักเสบ และกระตุ้นการสร้างคอลาเจน ซ่อมแซมผิวให้แข็งแรง

เมโสแฟต Miracle B รวมสารสกัดที่มาจากธรรมชาติ 100 % ทั้ง 6 ชนิด ที่มีคุณสมบัติในการช่วยเผาผลาญ และขจัดไขมันได้เป็นอย่างดี ดังนี้

• Wheat Germ เป็นการสกัดสาร Lectin จากข้าวบาเล่ย์ ที่จะช่วยป้องกันการสะสมของไขมัน และช่วยสลายไขมันที่จับตัวกันเป็นก้อน โดยการปล่อยเซลล์เม็ดเลือดขาว เพื่อสร้างไขมันสีน้ำตาล
• Centella Asiatica สารสกัดจากใบบัวบก มีส่วนช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ฟื้นฟูผิวได้อย่างล้ำลึก ทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอิลาสตินใต้ผิวหนัง ให้ผิวดูยกกระชับ เรียบเนียนมากขึ้น ทั้งยังช่วยลดการเกิดเซลลูไลท์บนผิวได้
• Chamomilla Recutita Extract มีส่วนช่วยในการต่อต้านแบคทีเรีย ลดการอักเสบของผิว ปลอบประโลมผิวที่ระคายเคือง ช่วยสมานนแผลให้หายไวขึ้น นอกจากนี้ยังมีวิตามินบี ที่ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว และกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น
• Lecithin สารสกัดจากพืชตระกูลถั่ว ช่วยลดระดับคอเรสเตอรอลลดลง ช่วยสลายไขมันที่เกาะบริเวณหลอดเลือด และขับไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย ทั้งนี้ Lecithin ยังมีคุณสมบัติที่สามารถละลายในน้ำ และไขมันได้
• Methylsilanol Mannuronate สาหร่ายทะเลสีน้ำตาล ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวที่สลายให้กลับมาแข็งแรง เติมความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ่มน้ำ ลดการเกิดเซลลูไลท์ ช่วยชะลอการสะสมของไขมัน เร่งการเผาผลาญ ดึงไขมันมาเป็นพลังงาน
• Scutellaria Baicalensis Root Extract สารสกัดจากดอกไม้สมุนไพรของจีน ช่วยปกป้องผิว มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใสขึ้น

ฉีดเมโสแฟตลดความอ้วนได้จริงไหม ?

การฉีดเมโสแฟตจะช่วยในการสลายไขมันเฉพาะส่วนของร่างกาย แต่ไม่สามารถช่วยลดน้ำหนักได้โดยตรง เมโสแฟตสามารถช่วยลดไขมันในบริเวณท้อง ต้นขา และแขนได้ จึงเห็นได้ว่าการฉีดเมโสแฟตจะช่วยให้ผิวดูกระชับ ลดไขมันสะสมเฉพาะจุด แต่ไม่ได้ช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนัก ดังนั้นหากต้องการลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ ควรปรับพฤติกรรมการกิน และออกกำลังกายให้เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการอย่างมีประสิทธิภาพ และยังสามารถเห็นผลอย่างสม่ำเสมอในอนาคต

เมโสแฟต สลายไขมันได้อย่างไร?

เมโสแฟตเป็นอีกหนึ่งตัวยาที่จะเข้าไปสลายไขมันใต้ผิวหนังให้สลายตัวออกจากกัน และทำให้ร่างกายนั้นสามารถขับไขมันออกทางระบบขับถ่ายโดยธรรมชาติ ทั้งยังช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ ให้ร่างกายนำไขมันออกมาใช้ ลดการสะสมไขมัน จึงส่งผลให้บริเวณที่ฉีดเมโสแฟตนั้นมีปริมาณไขมันลดลง ทั้งยังช่วยกระชับผิว ไม่ให้หย่อนคล้อย

ทั้งนี้การฉีดเมโสแฟต จำเป็นอย่างมากที่จะต้องเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน และตัวยาที่ผ่านการขึ้นทะเบียนอย. ไทย เพราะมีสารบางประเภทที่อันตราย ดังนี้

• สเตียรอยด์ เป็นสารที่มีอันตรายต่อร่างกาย แม้จะได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว เห็นผลไว และมีราคาที่ถูกมากนั้น หากฉีดซ้ำบ่อย ๆ อาจจะทำให้ผิวมีความบวม และเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย
• Hyaluronidase เป็นสารที่นำมาฉีดสลายฟิลเลอร์ ไม่เหมาะสำหรับนำมาสลายไขมัน เพราะจะส่งผลให้คอลลาเจนใต้ผิวนั้นถูกย่อยสลาย และผิวยุบตัวลงอย่างรวดเร็ว

สรุป

หลังจากการ ฉีดเมโสแฟต ยี่ห้อไหนดี ? รวมยี่ห้อเมโสแฟตที่ดีที่สุด ที่ผ่านอย.ไทย จะเริ่มสังเกตเห็นได้ถึงการเปลี่ยนแปลงได้เลยครั้งแรก โดยไขมันจะสลายได้มากถึง 10-20% ทันทีที่ตัวยาเริ่มออกฤทธิ์ และจะเริ่มเห็นผลชัดเจนในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังฉีด เมโสแฟตสามารถเห็นผลลัพธ์ได้นานถึง 2-3 เดือน

โดยเมโสแฟตนั้นจะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ ทั้งยังช่วยสลายไขมันสะสม และกระชับผิวให้มีความเต่งตึงขึ้น ปรับกรอบหน้าให้ชัดเจน หน้าดูวีเชฟ สำหรับใครที่อยากจะเห็นผลได้อย่างชัดเจนและสม่ำเสมอ อาจจะฉีดสัปดาห์ละครั้งในช่วงแรก ๆ สำหรับใครที่อยากจะฉีดเมโสแฟตสามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ได้ที่ วันดี คลินิก (Wandee clinic) ทุกสาขา

Wandee clinic  คลินิกความงามที่ได้มาตรฐาน ครบวงจร พร้อมมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีความยินดีที่จะให้บริการ และคอยให้คำปรึกษาแก่คุณลูกค้าทุกท่าน และแก้ปัญหาที่คุณต้องการไม่ว่าจะเป็น Fillerคาง ,ฟิลเลอร์ ,ฉีดฟิลเลอร์ ,ฟิลเลอร์คาง ,รีวิวฉีดปาก ,รีวิวฉีดปากวันดีคลินิก ,โปรโมชั่นคลินิก,คลินิกขอนแก่น ,คลินิกศัลยกรรมที่ไหนดี ,คลินิกเสริมความงาม, คลินิกความงาม, เมโสแฟต อย่างเป็นกันเองค่ะ

สามารถสอบถามเพิ่มเติมที่:
เว็บไซต์ : www.wandeeclinic.com

เหนียงเยอะ หน้าบาน ต้นแขนใหญ่!! ลดไม่ได้แก้ยังไง ? วันนี้ทาง วันดีคลินิก ของเรามีทางเลือกมาให้สาว ๆ หนุ่ม ๆ ที่อยากจะลดไขมันเฉพาะจุด และยกกระชับผิวให้ได้สัดส่วน Diamond Fat เป็นเมโสแฟตที่กำลังมาแรง และช่วยสลายไขมัน แก้มเหนียง สัดส่วน ตัวยาเข้มข้น เบิร์นดี ที่สาว ๆ ไม่ควรพลาด มาทำความรู้จักกับ ฉีดไดมอนแฟต ลดเหนียง กี่วันเห็นผล ? Diamond Fat ดีไหม ?

ฉีดเมโสแฟต คืออะไร ?

เมโสแฟต (Meso Fat) คือ การฉีดตัวยาเข้าไปในชั้นไขมัน เพื่อสลายไขมัน และลดไขมันสะสมส่วนเกินเฉพาะจุด ทั้งยังช่วยยกกระชับผิว ลดเซลลูไลท์ สามารถฉีดได้หลากหลายบริเวณ เช่น บริเวณแก้ม เหนียง กรอบหน้า ต้นแขน ต้นขา หรือหน้าท้อง ช่วยสลายไขมันและกระชับผิวให้เล็กลง โดยเมโสแฟตมีส่วนประกอบของตัวยาหลักหลายตัว

Diamond Fat ดีจริงไหม

ฉีดไดมอนแฟต ดีจริงไหม ช่วยลดไขมันได้จริงไหม ? ต้องบอกเลยว่า ช่วยได้ การฉีดเมโสแฟตจะช่วยสลายไขมันเฉพาะจุด และยังช่วยกระชับผิวให้ได้รูปมากขึ้น ซึ่งการฉีดไดมอนแฟตจะสามารถช่วยยกกระชับผิวมากขึ้นถึง 10-20% หลังฉีดทันที ช่วยลดไขมันได้อย่างรวดเร็ว สามารถเห็นผลได้ทันทีภายใน 3-5 วัน ช่วยสลายไขมันได้มากขึ้นภายใน 7-10 วัน นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการบวม ต้านอาการอักเสบ เมโสแฟตสามารถฉีดได้ทุกสัปดาห์เพื่อคงผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอ

Diamond Fat เป็นเมโสแฟตที่มีอาการบวม และแสบเล็กน้อยหลังฉีด นอกจากนี้ยังไม่มีสารอันตราย เช่น steroid, phosphatidylcholine, caffeine, hyaluronidase และ dexamethasone ทำให้สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว ช่วยลดการดื้อยา ผ่านการรับรองจากอย. ไทย จึงมั่นใจได้เลยว่ามีความปลอดภัยสูง

ไดมอนแฟต ดีกว่าเมโสแฟตยี่ห้ออื่นอย่างไร ?

• ออกฤทธิ์เผาผลาญไขมันอย่างต่อเนื่องนานถึง 3-5 วัน ทำให้สามารถลดไขมันเฉพาะจุดได้ดีขึ้น
• Diamond Fat สามารถฉีดเข้าสู่ผิวหนังบริเวณชั้นไขมันได้ทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า หรือร่างกาย สามารถฉีดลดแก้ม ลดเหนียง กระชับกรอบหน้า หรือใช้ฉีดบริเวณหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขาและน่อง ช่วยลดไขมันสะสมเฉพาะจุดได้ดี
• ลดการสะสมของไขมันใหม่ และสลายไขมันเก่า ทั้งยังช่วยกระชับผิว ให้ผิวเรียบเนียนได้มากขึ้น
• มีอาการแสบ หรือบวมเล็กน้อย ไม่มีผลข้างเคียง ช่วยลดโอกาสดื้อยา เพราะไม่มีส่วนผสมของสารอันตราย ไม่ว่าจะเป็น steroid, phosphatidylcholine, caffeine, hyaluronidase และ dexamethasone

บริเวณไหนบ้างที่นิยมฉีดเมโสแฟต

• ฉีดแฟตแก้ม ลดไขมันที่กระเปาะแก้ม ทำให้หน้าดูเรียว และมีขนาดเล็กลง
• ฉีดแฟตเหนียง หรือใต้คาง สลายไขมันบริเวณเหนียง พร้อมยกกระชับกรอบหน้าให้ดูชัดเจนขึ้น
• ฉีดแฟตต้นแขน ลดไขมันต้นแขน ทำให้แขนดูกระชับ เล็กลง
• ฉีดแฟตต้นขา ลดไขมันสะสมบริเวณต้นขา กระชับขาให้เล็กลง ทั้งยังช่วยแก้ปัญหาเซลลูไลท์ หรือผิวเปลือกส้ม
• บริเวณสะโพก ลดขนาดสัดส่วนของสะโพกให้เข้ารูป และสมส่วนมากขึ้น

เมโสแฟต เหมาะกับใครบ้าง ?

• ผู้ที่มีไขมันส่วนเกินสะสมเฉพาะจุด เช่น บริเวณ แก้ม เหนียง กรอบหน้า ต้นแขน ต้นขา
• ผู้ที่มีไขมันสะสมอยู่ในบริเวณที่ลดยาก
• ผู้ที่ต้องการลดไขมันแบบเร่งด่วน ทันใจ
• ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด หรือดูดไขมัน ในราคาสูง
• ผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้น และมีความกังวลเรื่องความเจ็บปวด

สรุป

ฉีดไดมอนแฟต ลดเหนียง กี่วันเห็นผล ? Diamond Fat ดีไหม ? เมโสแฟตสุดพรีเมียม ที่ได้รับความนิยมสูง รวมสารสกัดจากธรรมชาติหลากหลายชนิด ที่มีคุณสมบัติช่วยสลายไขมันสะสมเฉพาะจุด ช่วยลดการบวมน้ำ ต้านการอักเสบ และยกกระชับผิวให้เต่งตึงขึ้น จึงสามารถช่วยลดขนาดแก้ม เหนียง กรอบหน้า ต้นแขน ต้นขา หรือหน้าท้องได้ สำหรับใครที่อยากจะฉีดเมโสแฟต Diamond Fat สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ได้ที่ วันดี คลินิก (Wandee clinic) ทุกสาขา

Wandee clinic  คลินิกความงามที่ได้มาตรฐาน ครบวงจร พร้อมมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีความยินดีที่จะให้บริการ และคอยให้คำปรึกษาแก่คุณลูกค้าทุกท่าน และแก้ปัญหาที่คุณต้องการไม่ว่าจะเป็น Fillerคาง ,ฟิลเลอร์ ,ฉีดฟิลเลอร์ ,ฟิลเลอร์คาง ,รีวิวฉีดปาก ,รีวิวฉีดปากวันดีคลินิก ,โปรโมชั่นคลินิก,คลินิกขอนแก่น ,คลินิกศัลยกรรมที่ไหนดี ,คลินิกเสริมความงาม, คลินิกความงาม, เมโสแฟต อย่างเป็นกันเองค่ะ

สามารถสอบถามเพิ่มเติมที่:
เว็บไซต์ : www.wandeeclinic.com

หากคุณกำลังสงสัยว่า Sculptra ดีไหม ฉีด Sculptra ที่ไหนดี ปลอดภัย และน่าเชื่อถือ วันนี้ Wandee Clinic จะพาคุณไปทำความรู้จักกับตัวช่วยคืนความอ่อนเยาว์ Sculptra ลดอายุผิวให้เด็กลงเป็น 10 ปี ว่า Sculptra เหมาะกับคนใดบ้าง และควรระวังอะไรก่อนตัดสินใจทำหัตถการ!!

Sculptra ทำงานอย่างไร ?

Sculptra หรือ PLLA (Poly-L-Lactic Acid)  มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวให้กลับผลิตเพิ่มมากขึ้น โดยการทำงานของ Sculptra จะฉีดเข้าไปที่ชั้นผิว Subcutaneous ก่อฉีดจะผสมด้วย Sterile water การฉีด Sculptra เข้าไปที่ผิวชั้นลึกจะทำให้เห็นผลได้ไว โดยในช่วง 2-3 วันแรก ผิวจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงชุ่มชื้นขึ้น ทั้งยังทำให้ผิวดูอิ่มฟูทันทีเพราะโมเลกุลน้ำที่ฉีดเข้าไป จากนั้นน้ำจะค่อย ๆ ถูกดูดซึมสู่ผิว จึงทำให้เหลือเพียงผลึก PLLA

เมื่อ Sculptra ถูกดูดซึมเข้าผิวแล้วจะเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ทำงานมากขึ้น ผ่านระบบภูมิคุ้มกัน โดยส่งสัญญาณให้ Fibroblast ซึ่งเป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่สร้างเส้นใยคอลลาเจน ให้เข้ามารวมตัวกัน และเพิ่มการผลิตจำนวนมากขึ้น

จากงานวิจัยพบว่า Sculptra สามารถสร้างคอลลาเจนเพิ่มได้มากถึง 66.5% ทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดมีความแข็งแรง ยกกระชับ ฟื้นฟูผิว อิ่มน้ำมากขึ้น จึงทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ลง โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้นานถึง 25 เดือน หรือ 2 ปี

Sculptra ดีไหม ?

• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติให้มากขึ้น และช่วยเสริมสร้างชั้นผิวให้แข็งแรง คงผลลัพธ์ความอ่อนเยาว์ให้ผิว
• ยกกระชับผิวบริเวณที่หย่อนคล้อยให้มีความเต่งตึงมากขึ้น เช่น บริเวณร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก หรือมุมปาก
• เติมเต็มร่องริ้วรอย และลดเลือนริ้วรอยร่องลึกให้ดูจางลง ให้ผิวดูกระชับ และเรียบเนียนมากขึ้น
• ปรับสมดุลผิวให้สุขภาพดี แก้ปัญหาผิวแห้งกร้าน ผิวเหี่ยวย่น เติมน้ำให้ผิวดูชุ่มชื้น อิ่มน้ำมากขึ้น
• ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานมากกว่าการฉีดผลิตภัณฑ์สกินบูสเตอร์ตัวอื่น โดยให้ผลลัพธ์นานถึง 25 เดือน หรือ 2 ปี
• ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนมากขึ้น ลดการเกิดเซลลูไลท์ หรือผิวเปลือกส้มบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น สะโพก ต้นขา ต้นแขน เป็นต้น

ข้อควรระวังในการฉีด Sculptra

• Sculptra มีส่วนผสมของ poly-L-lactic acid” (PLLA), carboxymethylcellulose (USP) , non-pyrogenic mannitol (USP). ไม่เหมาะสำหรับคนที่แพ้สารดังกล่าว
• ผู้ที่มีประวัติเป็นคีลอยด์ หรือมีแผลเป็นนูน
• ผู้ที่มีประวัติเคยแพ้ชนิดรุนแรง (Anaphylaxis) ควรระวัง
• ผู้ที่มีการติดเชื้อที่ผิวหนัง หรือผิวหนังบริเวณที่จะทำหัตถการอักเสบ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีด
• หากมีโรคประจำตัวร้ายแรง และอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร ไม่ควรฉีด

หลังฉีด Sculptra ดูแลตัวอย่างไร ?

• งดการทำเลเซอร์ หรือหัตถการที่มีความร้อนสูงบนใบหน้า 1 เดือน
• หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า อบซาวน่า และการใช้ความร้อนเป็นเวลา 1 วัน
• แนะนำให้นวดหน้าเพื่อให้ตัวยากระจายไปทั่วใบหน้า
• หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง และโดนความร้อนเป็นเวลานาน เพื่อรักษาผลลัพธ์หลังฉีด

ฉีด Sculptra กี่วันเห็นผล ? อยู่ได้นานแค่ไหน ?

การฉีด Sculptra จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวให้ทำงานมากขึ้น ซึ่งเป็นการดูแลผิวจากโครงสร้างภายในอย่างล้ำลึก ทำให้หลังฉีด Sculptra จะเริ่มเห็นผลในช่วง 3 สัปดาห์แรก และจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนใน 3 เดือน ทั้งยังสามารถคงผลลัพธ์ได้ประมาณ 25 เดือน หรือ 2 ปี ทั้งนี้ความยาวนานจะขึ้นอยู่กับปริมาณตัวยาที่ฉีดเข้าไป การดูแลตัวเองหลังฉีด และปัญหาผิวของแต่ละบุคคล

ผลข้างเคียงหลังฉีด sculptra

Sculptra เป็นหัตถการที่ต้องใช้การฉีดสารกระตุ้นเข้าผิวหน้า โดยจะใช้เข็มในการฉีด ทำให้ผลข้าเคียงหลังฉีด คือ  อาการบวมแดง ช้ำเล็กน้อย บริเวณที่เข็มฉีดเข้าไป ซึ่งเป็นอาการทั่วไปที่พบได้ ทั้งนี้อาจจะมีอาการปวดร่วมด้วย อาการเหล่านี้สามารถหายได้เองประมาณ 2-3 วัน  ทั้งนี้ในบางคนอาจจะมีอาการปวดบวมเป็นก้อน หรืออาการอักเสบ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากมีอาการที่ผิดปกติสามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ได้

Sculptra ของแท้ดูยังไง ?

• Sculptra ของแท้ ต้องมีสติกเกอร์โมโนแกรมบนกล่อง อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่เคยถูกเปิดใช้งาน
• ต้องมีลายนูนรูปตัว S บนหน้ากล่อง
• มีเอกสารกำกับภาษาไทยและเลขทะเบียน อย. ติดอยู่ข้างกล่อง
• มี QR code สำหรับสแกนตรวจสอบของแท้ผ่านแอปพลิเคชัน eZTracker ได้
• ตัวยา Sculptra ก่อนผสมจะมีลักษณะเป็นผง (PLLA powder) ไม่เป็นของเหลว และต้องเป็นสุญญากาศ

สรุป

Sculptra ในการดูแลผิวสำหรับสาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ วัย 30 ปีขึ้นไป ที่อยากจะหน้าเด็กคงความอ่อนเยาว์ไว้ ทั้งยังอยากดูแลผิวอย่างล้ำลึก รวมคำถาม Sculptra ดีไหม ? ฉีดจุดไหนได้บ้าง ? ทางลัดหน้าเด็กเหมาะกับใคร ? สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวให้ผลิตเพิ่มมากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ใครที่กำลังมองหาคลินิก ฉีด Sculptra ที่ไหนดี ? ที่ปลอดภัย ใช้ตัวยาของแท้ที่ตรวจสอบได้ ต้องที่ Wandee Clinic ทุกสาขา สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ก่อนทำการรักษาได้

Wandee clinic  คลินิกความงามที่ได้มาตรฐาน ครบวงจร พร้อมมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีความยินดีที่จะให้บริการ และคอยให้คำปรึกษาแก่คุณลูกค้าทุกท่าน และแก้ปัญหาที่คุณต้องการ สามารถดู รีวิว Meso ของวันดีคลินิกเพิ่มเติมได้ หรือใครต้องการที่จะดู รีวิว คลินิก การทำหัถการอื่น ๆ สามารถเข้ามาดูได้ Meso หน้าใส, ฉีดเมโสหน้าใส, ฉีดเมโสหน้าใสที่ไหนดี, รีวิวเมโสหน้าใส, เมโสหน้าใสที่ไหนดี

สามารถสอบถามเพิ่มเติมที่:

เว็บไซต์ : www.wandeeclinic.com

ผิวขาดน้ำ หน้าดูเหี่ยว แก่กว่าวัย ทำไงดี ? ไม่ว่าจะสาวๆ ๆ หรือหนุ่ม ๆ ก็อาจจะเจอปัญหานี้กันอยู่ แต่ไม่รู้ว่าจะต้องแก้ยังไงดี และควรทำหัตถการไหนดี ผิวถึงจะกลับมาปัง หน้าดูเด็กอีกครั้ง  วันนี้ทาง วันดีคลินิก จะมาแนะนำ ตัวช่วยแก้ปัญหาริ้วรอย ผิวขาดน้ำ ดูโทรม ที่จะช่วยเติมความชุ่มชื้น ให้ผิวอิ่มน้ำ เจาะลึกความลับ NCFS 140HPn คืออะไร? ย้อนวัยผิวให้อ่อนเยาว์เหมือนเด็กอีกครั้ง เมโสหน้าใสสัญชาติเกาหลีที่กำลังมาแรงที่สุดในตอนนี้

• meso หน้าใส คืออะไร ?
• NCFS 140HPn คืออะไร?
• สารสกัดสำคัญ Hyaluronic Acid (HA) คืออะไร?
• Hyaluronic Acid ช่วยเรื่องอะไร ?
• Polynucleotide คืออะไร ?
• Polynucleotide ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
• เมโส NCFS 140HPn รวมวิตามินมากกว่า 50 ชนิด ดีอย่างไร ?
• NCFS เหมาะกับใครบ้าง ?
• อยากฉีด NCFS ฉีดจุดไหนดี ?
• ขั้นตอนการฉีด NCFS 
• การดูแลตัวเองหลังฉีด NCFS 140HPn ให้ได้ผลดีที่สุด
• ฉีด NCFS เจ็บไหม ?
• ฉีด NCFS อันตรายไหม ?
• NCFS 140HPn vs เมโสทั่วไป ต่างกันไหม ?
• หลังฉีด NCFS จะอยู่ได้นานไหม ?
• ไขข้อสงสัยฉีด NCFS ดีไหม ?
• เมโส NCFS 140HPn ราคาเท่าไร ?
• เลือกฉีด NCFS ที่ไหนดี ?

meso หน้าใส คืออะไร ?

เมโสหน้าใส (Mesotheraphy) คือ การบำรุงผิวหน้าโดยใช้เข็มสะกิดยาบริเวณผิวหน้า ส่วนประกอบของเมโสหน้าใสแต่ละยี่ห้อจะมีความแตกต่างกัน แต่โดยส่วนมากจะใช้สารสกัดเข้มข้น เช่น วิตามิน และสารบำรุงผิวที่มีประโยชน์ เช่น วิตามินเอ วิตามินอี วิตามินซี คอลลาเจน คิวเท็น โคเอนไซม์ และ กลูต้าไธโอน ช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก ทั้งยังช่วยปรับสภาพผิวให้สว่างกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำบนใบหน้าได้

สารสกัดสำคัญ Hyaluronic Acid (HA) คืออะไร?

สารไฮยาลูรอนิค แอซิด หรือ Hyaluronic Acid (HA) เป็นสารที่ร่างกายสามารถผลิตเองได้ ช่วยทำหน้าที่กักเก็บน้ำ และความชุ่มชื้นภายเซลล์เนื้อเยื่อในชั้นโครงสร้างผิว มีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินให้ผิว เพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้น ความอิ่มน้ำ ทั้งยังช่วยสมานแผลและฟื้นฟูผิว Hyaluronic Acid (HA) จึงมีความสำคัญต่อผิวอย่างมาก เพราะจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว ผิวเรียบเนียนขึ้น และดูอ่อนเยาว์ขึ้น สาร Hyaluronic Acid (HA) จะผลิตได้น้อยลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น จึงทำให้ปัญหาผิวสามารถเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็น ริ้วรอยก่อนวัย หรือหน้าไม่กระชับ

Hyaluronic Acid ช่วยเรื่องอะไร ?

• ปรับผิวให้ดูเรียบเนียนนุ่ม สุขภาพดี
• เติมความชุ่มชื้น รักษาสมดุลให้กับผิว
• ช่วยกักเก็บน้ำ ให้ผิวไม่แห้งแตก
• ประบผิวให้เนียนละเอียด ผิวดูกระชับขึ้น
• ลดเลือนริ้วรอยร่องตื้นบนผิว ให้เรียบเนียน

Polynucleotide คืออะไร ?

อีกหนึ่งสารสกัดที่สำคัญมากใน NCFS คือ โพลินิวคลิโอไทด์ Polynucleotide (PN) ที่ได้จากการสกัด DNA ของปลา Salmon ให้กลายมาเป็นอนุพันธ์ขนาดเล็กระดับเซลล์ ซึ่งเป็นโครงสร้างของ DNA สาร Polynucleotide (PN) จะเข้าไปกระตุ้นโปรตีนบริสุทธิ์ในชั้นผิวหนังแท้ Growth Factor โดยตัวยาจะเข้าไปฟื้นฟูผิวในส่วนที่มีปัญหา ต้องการที่จะดูแลผิวได้ถึงระดับ DNA ช่วยปรับโครงสร้างผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรง ลดการสร้างเม็ดสีบนผิวหน้า จึงช่วยลดโอกาสเกิด ริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำ ลดรอยสิว และช่วยบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก คืนความสว่างกระจ่างได้

Polynucleotide ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?

• ซ่อมแซมผิวได้ถึงระดับเซลล์ DNA และช่วยบำรุงผิวอย่างล้ำลึก
• ฟื้นฟูผิว (Recovery Phase) ให้แข็งแรงมากขึ้น
• ช่วยกระตุ้นการสร้างไฟโบรบลาสต์ได้ 90.3% ภายใน 24 ชั่วโมงหลังฉีด
• ช่วยกระตุ้นสร้างคอลลาเจน อิลาสตินได้ 128.5% ภายใน 24 ชั่วโมงหลังฉีด
• เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวมากขึ้น
• ช่วยลดความหมองคล้ำ ปรับผิวให้สว่างกระจ่างใส
• ช่วยกระตุ้นการทำงานกระบวนการ Wound Healing process ที่ช่วยทำให้แผลสมานเร็วขึ้น

อยากฉีด NCFS ฉีดจุดไหนดี ?

NCFS สามารถเลือกฉีดได้หลากหลายจุด ไม่ว่าจะเป็น บริเวณใบหน้า หน้าผาก หน้าแก้ม คาง ลำคอ หรือบริเวณอื่น ๆ ที่มีปัญหาผิว เช่น หลังมือ เพื่อช่วยเติมความอิ่มฟู ความชุ่มชื้น ให้ผิวกลับมาอ่อนเยาว์อีกครั้ง สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อประเมิน วางแผนการรักษาเกี่ยวกับบริเวณที่ฉีด และปริมาณยาที่ใช้ได้

ขั้นตอนการฉีด NCFS

• เข้ารับคำปรึกษากับแพทย์ก่อนฉีด เพื่อวางแผนการรักษา และประเมินบริเวณ และปริมาณตัวยาที่จะฉีด
• ก่อนฉีดสามารถขอแปะยาชา หรือประคบเย็น เพื่อลดความเจ็บปวดได้
• การฉีด NCFS จะเริ่มฉีดเข้าไปที่บริเวณผิวหน้า โดยจะฉีดตัวยาตามจุดที่ต้องการบนใบหน้า หรือบริเวณอื่น ๆ ที่ต้องการรักษา
• หลังจากฉีดเสร็จ จะมีอาการบวมเข็ม หรือมีตุ่มยาบริเวณผิวหน้าเล็กน้อย ซึ่งอาการดังกล่าวจะค่อย ๆ หายไปใน 1-2 ชั่วโมงหลังฉีด และจะหายไปประมาณ 1 -2 วันหลังฉีด
• หลังฉีดเสร็จควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด หากเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง หรือมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย ควรเข้าไปพบแพทย์ทันที

การดูแลตัวเองหลังฉีด NCFS 140HPn ให้ได้ผลดีที่สุด

การดูแลรักษาตัวหลังฉีด NCFS นั้นในช่วงวันแรกหลังฉีด ไม่ควรแกะ เกา หรือกดบริเวณแผล ไม่แนะนำให้แต่งหน้าทันทีหลังฉีด แต่หลังจาก 1 วันก็สามารถแต่งหน้า หรือใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ สำหรับใครที่อยากให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน และมีประสิทธิภาพสูงสุด สามารถปฏิบัติตัวตามนี้ได้

• หากมีรอยแดง รอยช้ำ หรืออาการปวด สามารถประคบเย็นบริเวณรอบ ๆ แผล เพื่อลดอาการปวดได้
• ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว และช่วยให้ร่างกายสุขภาพดี
• ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ฤทธิ์ยาสลายได้ไว และผิวเสียความชุ่มชื้น
• ใครที่มีอาการปวด บวมแดง หรือมีความระบมตามรอยเข็ม หลังฉีดสามารถกินยาแก้ปวดได้

ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อที่ตัวยาจะได้ทำงานได้ดีขึ้น

ฉีด NCFS อันตรายไหม ?

ทาง วันดี คลินิก ของเรามีการนำเข้าตัวยา NCFS จากบริษัทผู้นำเข้าโดยตรง ทำให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะได้รับของแท้ และมีความปลอดภัย ตรวจสอบได้ โดยตัวเมโส NCFS เป็นนวัตกรรมบำรุงผิวหน้าที่ได้รับการวิจัย และพัฒนาจากประเทศเกาหลี ทั้งยังผ่านการรับรอง KFDA เกาหลี และ THAI FDA ไทย ผ่านมาตรฐาน อย.ไทย สามารถตรวจสอบได้ การเลือกฉีด NCFS 140HPn ก็เป็นปัจจัยสำคัญอย่างมาก เพราะต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการฉีดในการฉีด จึงจำเป็นที่จะต้องเลือกคลินิกที่นำเข้าตัวยาอย่างถูกกฎหมาย

หลังฉีด NCFS จะอยู่ได้นานไหม ?

การฉีด NCFS 140HPn สามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และอยู่ได้นานประมาณ 2-6 เดือน หากใครต้องการได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน และต่อเนื่อง แนะนำให้ฉีดต่อเนื่องกันในช่วงแรง 3-5 ครั้ง หรือสัปดาห์ละครั้งในช่วงเดือนแรก เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้เห็นชัดเจน และหลังจากนั้นสามารถฉีดได้เดือนละ 1 ครั้ง และค่อย ๆ เปลี่ยนเป็น 3-6 เดือนครั้ง เพื่อคงผลลัพธ์ให้ได้ยาวนานและต่อเนื่อง ทั้งนี้ความยาวนานของผลลัพธ์นั้นจะขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีด

ไขข้อสงสัยฉีด NCFS ดีไหม ?

สำหรับใครที่มีปัญหาผิว เหี่ยวย่น ริ้วรอยร่องตื้น หรือปัญหาผิวไม่สมดุล ขาดความชุ่มชื้น การฉีด NCFS ถือเป็นอีกหนึ่งคำตอบที่น่าสนใจ เพราะ NCFS จะช่วยปรับสมดุลผิว ทั้งยังช่วยฟื้นฟูผิวได้ระดับ DNA อย่างล้ำลึก เติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ่มน้ำ ผิวดูกระชับขึ้น และช่วยปรับให้หน้าดูเด็กลงอีกครั้ง หากใครสนใจที่จะฉีด NCFS สามารถเข้ามารับคำปรึกษากับแพทย์ เพื่อประเมินผิว และวางแผนการรักษาได้ฟรีที่ วันดี คลินิก ทุกสาขา

เมโส NCFS 140HPn ราคาเท่าไร ?

ราคา NCFS แต่ละที่ แต่ละคลินิกจะมีราคาที่แตกต่างกันออกไป ตามปัจจัยต่างๆ โดยที่ ราคาเหมา 1 ขวด ปริมาณขวดละ 3 ml ฉีดได้ 1 ครั้งอยู่ที่ราคา 4,990 บาท  หากสนใจฉีด NCFS  สามารถทักสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

เลือกฉีด NCFS ที่ไหนดี ?

Wandee Clinic ให้บริการความงามแบบครบวงจร รวมทุกหัตถการเสริมความงาม ที่ตรงใจคุณ  พร้อมให้บริการฉีด NCFS ที่นำเข้าโดยบริษัทที่ได้รับการอนุญาตอย่างเป็นทางการเท่านั้น เราเลือกใช้ตัวยาแท้ ที่สามารถตรวจสอบได้ ให้คุณมั่นใจเรื่องความปลอดภัยได้แบบ 100% พร้อมแพทย์มากประสบการณ์ที่ดูแลทุกขั้นตอน