ปัจจุบันเทรนการทำสวยทีได้รับความนิยมสูงคงจะหนีไม่พ้น เทรนด์คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวดูเด็ก ซึ่งปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์มากมาย ที่ถูกพัฒนามาเพื่อแก้ไขปัญหาสำหรับคนที่มาอายุ 30 ปีขึ้นไป เพื่อช่วยคงความอ่อนเยาว์ กระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวได้มากขึ้น เช่น Radiesse นวัตกรรมกระตุ้นคอลลาเจนตัวใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก สำหรับใครที่มีความสนใจและต้องการที่จะลองทำนั้น ก่อนที่จะเข้ารับการทำหัตถการ มาทำความรู้จักกับ Radiesse คืออะไร ? เจาะลึกนวัตกรรมคืนความอ่อนเยาว์ เติมวอลลุ่มให้ผิวดูเด็ก เพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนทำสวยที่ Wandee Clinic
สารบัญ
Radiesse คืออะไร ?
RADIESSE® (เรเดียสซ์) เป็น the One of a Kind Regenerative Biostimulator ตัวช่วยฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์คนที่มีปัญหาคอลลาเจนสูญหาย ซึ่งตัว Radiesse นั้นมีส่วนประกอบหลัก คือ สาร CaHA (Calcium Hydroxylapatite microsphere) เป็นสารที่ถูกคิดค้น และมีการวิจัยโดยบริษัท Merz Aesthetics (บริษัท เมิร์ซ เอสเธติกส์) บริษัทความงามระดับโลก ที่ได้รับความไว้วางใจมากมาย
โดยจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ Radiesse คือ การฟื้นฟูผิวระดับลึก ถึงระดับโครงสร้าง หรือเรียกว่า Regenerative Biostimulator ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างตาข่ายคอลลาเจนทั้งหมด 5 ประเภท คือ Collagen Type I, Collagen Type III, Elastin, Angiogenesis และ Proteoglycan ที่มีส่วนช่วยฟื้นฟูผิวให้สุขภาพดี ผิวกระชับ อิ่มฟู ทั้งยังช่วยลดเลือนริ้วรอย และยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้ดูเต่งตึง ทำให้หน้าดูเด็กลง
CaHA คืออะไร?
CaHA คืออะไร ? Calcium Hydroxyapatite (แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์) หรือ CaHA เป็นสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ร่างกายสามารถผลิตขึ้นมาได้เองตามธรรมชาติ โดยส่วนมากจะพบในบริเวณเนื้อเยื่อกระดูกและฟัน ช่วยลดโอกาสเกิดการต่อต้านสิ่งแปลกปลอมภายนอกร่างกาย ไม่ก่อให้เกิดการแพ้ โดยปกติแล้วนั้นในวงการการแพทย์นิยมนำ CaHA มาใช้ในการรักษามายาวนานกว่า 25 ปี เช่น การปลูกกระดูก (Orthopedics and Bone grafts) หรือการทำรากฟันเทียม (Dental implants)
จึงมีข้อมูลงานวิจัยรองรับที่มีประสิทธิภาพและถูกเผยแพร่มากกว่า 250 ฉบับ ทั้งยังได้รับการรับรองและอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) รวมถึงในยุโรป (CE) และในปัจจุบัน CaHA ได้รับความนิยมนำมาใช้ในวงการการแพทย์ความงามมากขึ้น เช่น การเติมเต็มกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ได้ หรือการยกกระชับใบหน้าโดยไม่ใช้เครื่องมือ จึงมั่นใจได้เลยว่าปลอดภัย
ผลลัพธ์หลังทำโปรแกรม Radiesse
การทำหัตถการ Radiesse จะฉีดยาเข้าไปที่บริเวณผิวระนาบ เมื่อตัวยาเข้าไปที่ผิวแล้วจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของ Fibroblasts (ไฟโบรบลาส) เซลล์ต้นกำเนิดคอลลาเจนในผิว ที่จะช่วยทำให้ผิวสร้างคอลลาเจนเพิ่มมากขึ้น
หลังเติมจะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ในช่วง 4-78 สัปดาห์ หลังจากนั้นอนุภาค CaHA จะค่อย ๆ ก่อตัวเป็นโครงสร้าง และช่วยกระตุ้นเซลล์ให้ผลิตคอลลาเจนออกมามากขึ้น กระตุ้นให้เกิดการสร้าง Elastin ในชั้นผิวสูงถึง 250% ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว โดยจะเปลี่ยนเป็นโครงสร้าง หรือเส้นใยตาข่าย 3 มิติ (3D Matrix) ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับผิวชั้นลึก ทำให้ผิวดูอิ่มฟูขึ้นทันทีหลังฉีด ทั้งยังช่วยฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ช่วยทำให้ผิวยืดหยุ่นและคืนตัวได้ดี และชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคต หลังฉีดจะสามารถเห็นผลลัพธ์ทันที ใน 1 เดือนแรก หลังจากนั้นผิวจะเริ่มกระชับขึ้น มีความยืดหยุ่น ผิวแน่นฟู ร่องลึกต่าง ๆ ตื้นขึ้น ริ้วรอยจางลง และจะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ใน 3-6 เดือนคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 2 ปี
Radiesse เหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่ผิวหน้าขาดคอลลาเจน ทำให้หน้าไม่อิ่มฟู มีริ้วรอยเหี่ยวย่น
- ผู้ที่มีริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้า เช่น ร่องแก้ม ร่องมุมปาก
- ผู้ที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อย หน้าไม่เรียบเนียน กรอบหน้าไม่ชัด
- ผู้ที่มีผิวแห้ง ผิวดูไม่สุขภาพดี มีความหมองคล้ำ ขาดความชุ่มชื้น
- ผู้ที่มีรอยแผลเป็น ผิวมีรอยบุ๋ม หรือมีหลุมสิวที่ไม่ได้มีความลึกมาก
- ผู้ที่มีอายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไป ผิวมีริ้วรอย และความหย่อนคล้อย อยากให้ผิวดูเด็กลง
Radiesse ไม่เหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
- ผู้ที่มีประวัติแพ้แบบรุนแรง หรือประวัติภาวะช็อกจากการแพ้อย่างรุนแรง
- ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชา หรือแพ้สารประกอบในผลิตภัณฑ์ Radiesse
- ผู้ที่มีแนวโน้มที่จะเกิดแผลนูน หรือคีย์ลอยด์สูงบริเวณผิวหนัง
- ผู้ที่มีการอักเสบของผิวหนัง หรือมีการติดเชื้อ มีสิวในบริเวณที่จะทำการรักษา
- ผู้ที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติ
คุณสมบัติของ Radiesse ช่วยอะไรบ้าง ?
- ช่วยกระตุ้นการสร้าง Collagen Type I +150% ให้โครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้น ยกกระชับดูเต่งตึงมากขึ้น
- ช่วยกระตุ้นการสร้าง Collagen Type III +130% ฟื้นฟูถึงในระดับคอลลาเจนและอิลาสติน ให้จัดเรียงใหม่ ผิวดูกระชับ เต่งตึง พร้อมช่วยลดเลือนริ้วรอย
- ช่วยกระตุ้นการสร้าง Elastin +260% ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น เพิ่มวอลลุ่มให้ผิวดูสุขภาพดี
- ช่วยกระตุ้นการสร้างหลอดเลือดขนาดเล็ก ช่วยทำให้มีสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์ผิว (Angiogenesis)
- ช่วยกระตุ้นการสร้างน้ำหล่อเลี้ยงผิว ช่วยทำให้ผิวดูชุ่มชื้น อิ่มน้ำมากขึ้น (Proteoglycan) ทำให้ผิวสามารถยืดหยุ่น และคืนตัวได้ดี
เติมโปรแกรม Radiesse ที่ไหนดี ?
- เลือกทำหัตถการจากคลินิกที่มีความปลอดภัย น่าเชื่อถือ เปิดให้บริการอย่างถูกต้องตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข มีชื่อคลินิกชัดเจน และเลขที่ใบอนุญาตของผู้ประกอบการ ติดไว้ในที่เห็นได้ และมีป้ายรายชื่อผู้ประกอบวิชาชีพในคลินิกติดไว้ในที่เปิดเผย ทำให้มีความมั่นใจในการใช้บริการ
- การทำหัตถการด้วย Radiesse จะต้องอยู่ภายใต้การดูแลจากแพทย์ที่มีประสบการณ์ และเป็นแพทย์ที่มีความชำนาญ ได้รับการเทรนจากบริษัทนำเข้า Merz Aesthetic Thailand โดยตรง
- เลือกคลินิกที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ Radiesse ของแท้ ที่นำเข้าจากบริษัท Merz Aesthetic Thailand แล้วเท่านั้น และผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบได้
วิธีดู Radiesse ของแท้
- มีเลขจดแจ้งทะเบียนอย. และเอกสารกำกับภาษาอังกฤษ
- มี QR Code ที่หน้ากล่อง เพื่อให้สแกนตรวจสอบ
- ตรวจสอบเลข ที่กล่องและซองต้องตรงกัน
- มีใบรับประกัน Skin Rejuvenetioon Card หรือ Radiesse Club Card
- สามารถโทรเช็คเลข กับบริษัทนำเข้า บริษัท MERZ HEALTHCARE (THAILAND) จำกัด โทร.02 026 1111
การดูแลหลังทำ Radiesse
- อาการหลังทำที่พบได้ทั่วไป อาจจะมีอาการบวมเล็กน้อยบริเวณที่ทำการรักษา ซึ่งอาการจะหายไปเองใน 72 ชั่วโมง ไม่ควรสัมผัส แตะ เกา บริเวณที่บวม
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า หรือทาสกินแคร์บริเวณผิว 12 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการอักเสบ
- หลีกเลี่ยงการทำหัตถการที่มีความร้อนสูง เช่น เลเซอร์ หรือกิจกรรมที่มีความร้อน เช่น ซาวน่า อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังทำ
- หลังทำหากมีก้อนบริเวณใต้ผิวหนัง สามารถกดนวดบริเวณก้อน เพื่อลดอาการได้
- หลังทำอาจจะมีรอยช้ำ หรือผิวมีลักษณะแดงจากการทำหัตถการได้ แนะนําประคบเย็น หรือรับประทานยาที่ช่วยลดการช้ำได้
- แนะนำให้ประคบอุ่น หลังจากทำหัตถการผ่านไป 24 ชั่วโมง ตามคำแนะนําของแพทย์
- หากพบความผิดปกติอื่น ๆ หลังทำ Radiesse แนะนําให้กลับมาปรึกษาแพทย์
ข้อควรระวัง และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังทำโปรแกรม Radiesse
หลังจากทำหัตถการ Radiesse ผู้เข้ารับบริการสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก หลีกเลี่ยงการจับ เกา ถู หรือนวดหน้าแรง ๆ เพื่อป้องกันการอักเสบหรือการติดเชื้อจากรูเข็มหลังทำ หากมีอาการบวม รอยช้ำจากเข็ม หรือผิวมีลักษณะแดง แนะนำให้ประคบอุ่น หรือรับประทานยาเพื่อลดอาการช้ำ ซึ่งรอยช้ำหรืออาการบวมจะค่อย ๆ หายไปได้เองภายใน 1-3 วัน หรือหากมีผลข้างเคียงอื่น ๆ เช่น ผิวเปลี่ยนสี ผิวบริเวณที่ฉีดซีดลง ควรเข้ามาพบแพทย์ทันทีเพื่อวางแผนทำการรักษา
Radiesse VS Sculptra ตัวไหนดี ?
Radiesse
Radiesse เป็นนวัตกรรมกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว เน้นการเพิ่มวอลลุ่มให้ผิวหน้าดูอิ่มน้ำ มีมิติมากขึ้น โดยมีส่วนประกอบหลัก คือ CaHA (Calcium Hydroxylapatite microsphere) ซึ่งเป็นสารที่เกิดขึ้นเองในร่างกาย มีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเส้นใยตาข่ายผิวใหม่ได้ถึง 5 ประเภท คือ Collagen Type I, Collagen Type III, Elastin, Angiogenesis และ Proteoglycan ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ หน้าดูเด็กลง Radiesse สามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 2 ปี เหมาะสำหรับคนที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ที่มีปัญหาสูญเสียคอลลาเจน หน้าไม่มีวอลลุ่ม มีร่องริ้วรอย
Sculptra
Sculptra ตัวช่วยฟื้นฟูผิวแบบล้ำลึก คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิว และช่วยยกกระชับผิว ซึ่ง Sculptra คือ PLLA หรือ Poly-L-Lactic acid ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Collagen Biostimulator ตัวแรก โดยจะเข้าไปกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาว Macrophage ให้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Collagen Type I และElastin ใต้ชั้นผิว ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ ลดริ้วรอย ยกกระชับผิว โดยสลายตัวช้ากว่าทำให้ผลลัพธ์นั้นอยู่ได้นานกว่า Sculptra สามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 2 ปี เหมาะสำหรับคนที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย หน้าเหี่ยวแห้ง มีร่องริ้วรอย
คำถามที่พบบ่อย
Q : หัตถการ Radiesse อยู่ได้นานไหม ?
A : หลายคนอาจจะมีข้อสงสัยว่าการทำหัตถการ Radiesse สามารถอยู่ได้นานแค่ไหน ? หลังทำ Radiesse จะสามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 2 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความถี่ของการรักษา ปัญหาและสภาพผิวของแต่ละบุคลคล รวมถึงการดูแลตัวเองเพื่อรักษาคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิวให้อยู่ได้นานขึ้น
Q : หากทำ Radiesse กี่วันเห็นผลลัพธ์ ?
A : หลังทำหัตถการ Radiesse จะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที ในช่วง 1 เดือนแรก ผิวจะเริ่มมีความกระชับ ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ผิวมีความแน่นอิ่มฟู เติมร่องริ้วรอยให้ตื้นขึ้น ในช่วง 3-6 เดือน จะเริ่มออกฤทธิ์กระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวดูยกกระชับ อิ่มน้ำ ใบหน้าดูมีมิติ เรียบเนียน และมีวอลลุ่มมากขึ้น ซึ่งจะเริ่มเห็นผลได้ชัดเจนขึ้น
Q : เติม Radiesse ต้องทำกี่ครั้ง ?
A : สำหรับใครที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานและถาวร แนะนำให้ทำโปรแกรม Radiesse ติดต่อกัน 1-3 ครั้ง ควรเว้นระยะห่าง 1 เดือน เพื่อผลลัพธ์ที่ดี ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหา เนื่องจากแต่ละบุคคลจะมีปัญหาผิวที่แตกต่างกัน และโปรแกรม Radiesse จะสามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลหลังทำ
Q : Radiesse 1 กล่อง มีกี่ CC ?
A : โปรแกรม Radiesse ตัวยาจะมาในรูปแบบของเจล (Pre-filled syringe) โดย 1 กล่องจะมี 1 ไซริงค์ หรือ 1.5 CC ภายในจะประกอบไปด้วยตัวยา ดังนี้
- แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ไมโครสเฟียร์ (CaHA) 30% ลักษณะทรงกลมขนาด 25-45 ไมครอน
- เจลคาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลส (CMC) 70%
ซึ่ง Radiesse จะมีอายุในการเก็บรักษา 2 ปี สามารถเก็บได้ที่อุณหภูมิ 15-25° C ไม่ต้องเก็บใส่ตู้เย็น
สรุป
Radiesse หัตถการดูแลผิวอย่างล้ำลึก ที่ช่วยดูแลผิวได้ถึงระดับโครงสร้าง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนมากถึง 5 ชนิด ให้ผิวดูเต่งตึงสุขภาพดี เติมเต็มร่องริ้วรอยให้ตื้นขึ้น ผิวดูมีมิติ คืนความอ่อนเยาว์ให้กลับมาดูเด็กอีกครั้ง สำหรับใครที่อยากลองทำหัตถการนี้ สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ที่ วันดี คลินิก ได้เลย
Wandee clinic คลินิกความงามที่ได้มาตรฐาน ครบวงจร พร้อมมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีความยินดีที่จะให้บริการ และคอยให้คำปรึกษาแก่คุณลูกค้าทุกท่าน และแก้ปัญหาที่คุณต้องการ สามารถดู รีวิว Meso ของวันดีคลินิกเพิ่มเติมได้ หรือใครต้องการที่จะดู รีวิว คลินิก การทำหัถการอื่น ๆ สามารถเข้ามาดูได้
Meso หน้าใส, ฉีดเมโสหน้าใส, ฉีดเมโสหน้าใสที่ไหนดี, รีวิวเมโสหน้าใส, เมโสหน้าใสที่ไหนดี
สามารถสอบถามเพิ่มเติมที่:
เว็บไซต์ : www.wandeeclinic.com
LINE ID : @wandeeclinic